คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3296/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ในฐานะผู้ขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ประสงค์จะแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ โจทก์สามารถดำเนินการตามข้อ 22 ของกฎกระทรวง (พ.ศ.2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 ได้ และหากการขอแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ได้กระทำหลังจากมีการประกาศโฆษณาคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์แล้ว โจทก์อาจขออนุญาตต่ออธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาในการแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์นั้นได้ ในคดีนี้ โจทก์อ้างว่าได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2535 แต่ก็ไม่ปรากฏว่าคำขอแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ของโจทก์ถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลใด กรณีหาใช่ว่าโจทก์มีความจำเป็นต้องยื่นคำขอรับสิทธิบัตรฉบับใหม่ไม่ เมื่อโจทก์ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ใหม่ซึ่งมีข้อถือสิทธิต่างไปจากเดิม กระบวนการตรวจสอบจึงต้องเป็นไปตามกฎหมายทั้งหมด ข้ออ้างที่ว่าการขอรับสิทธิบัตรใหม่เป็นการขอเพื่อเพิ่มเติมคำขอเดิมฟังไม่ขึ้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้พิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการสิทธิบัตร และพิพากษาว่าคำขอรับสิทธิบัตรเลขที่ 044077 ของโจทก์เป็นการขอแก้ไขเพิ่มเติมและเป็นส่วนหนึ่งของคำขอรับสิทธิบัตรเลขที่ 005385 ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 5, 6, 7 และ 8 และให้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญารับจดทะเบียนการประดิษฐ์และออกสิทธิบัตร ตามคำขอรับสิทธิบัตรเลขที่ 044077 เป็นส่วนหนึ่งของข้อถือสิทธิบัตรเลขที่ 8082
จำเลยทั้งสิบสามให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลย โดยกำหนดเป็นค่าทนายความ 3,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า โจทก์ในฐานะผู้ขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ตามคำขอเลขที่ 005386 ประสงค์จะแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ โจทก์สามารถดำเนินการตามข้อ 22 ของกฎกระทรวง (พ.ศ.2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 ได้ และหากการขอแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ได้กระทำหลังจากมีการประกาศโฆษณาคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์แล้ว โจทก์ย่อมอาจขออนุญาตต่ออธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาในการแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์นั้นได้ แม้ว่าพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 และกฎกระทรวง (พ.ศ.2522) จะไม่ได้บัญญัติหรือกำหนดให้สิทธิแก่ผู้ขอรับสิทธิบัตรในการโต้แย้งคำสั่งของอธิบดี ในกรณีที่ปฏิเสธไม่ให้ผู้ขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ขอแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรไว้ก็ตาม แต่หากผู้ขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ย่อมนำคดีมาฟ้องต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ในคดีนี้ โจทก์อ้างว่าได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2535 แต่ก็ไม่ปรากฏว่าคำขอแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ของโจทก์ถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลใด กรณีหาใช่ว่าโจทก์มีความจำเป็นต้องยื่นคำขอรับสิทธิบัตรฉบับใหม่เป็นคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ 044077 เพื่อให้กระบวนการเยียวยาของฝ่ายบริหารถึงที่สุด ดังที่โจทก์อุทธรณ์ไม่ เพราะหากโจทก์ได้ยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์และอธิบดีมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ยื่นคำขอดังกล่าวแล้ว ก็ย่อมต้องถือว่าโจทก์ได้ดำเนินการในกระบวนการเยียวยาของฝ่ายบริหารจนถึงที่สุดแล้ว เมื่อโจทก์ไม่นำคดีมาฟ้องต่อศาล แต่เลือกดำเนินการยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ฉบับใหม่ซึ่งมีข้อถือสิทธิที่แตกต่างไปจากเดิม กระบวนการในการตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรจึงต้องเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ทั้งหมด ที่โจทก์อ้างว่าการยื่นคำขอรับสิทธิบัตรใหม่เป็นการขอเพื่อเพิ่มเติมคำขอเดิมนั้น เป็นข้อกล่าวอ้างตามความเข้าใจของโจทก์ฝ่ายเดียว และปราศจากเหตุผลที่จะให้ศาลตีความการแสดงเจตนาของโจทก์ว่าโจทก์ประสงค์จะยื่นคำขอรับสิทธิบัตรฉบับใหม่เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตรฉบับเดิม อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share