แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยานั้น เมื่อพ้นกำหนด 2 ปีแล้วสิทธิการฟ้องร้องย่อมระงับไป
โจทก์จำเลยทะเลาะกันด่ากัน โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์เพื่อยกเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคนปากร้าย โมโหร้ายรุนแรง นิสัยแข็งกระด้าง ไม่เคารพยำเกรงมารดาและญาติโจทก์ การปกครองบังคับบัญชาคนใช้ซึ่งเป็นหน้าที่แม่บ้านใช้ไม่ได้เลย มารดาและน้องโจทก์ทนอยู่กับจำเลยไม่ได้ ต่อมาจำเลยได้ย้ายบ้านไป เป็นการจงใจละทิ้งโจทก์ และได้ด่าโจทก์อย่างร้ายแรง เป็นปรปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา จึงขอหย่า
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์ที่ว่าจำเลยได้ทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีภริยาอย่างร้ายแรงนั้น เป็นเหตุที่เกิดขึ้นพ้นกำหนด ๒ ปี ก่อนยื่นฟ้อง สิทธิฟ้องร้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๐๙
ส่วนเหตุหย่าที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจงใจละทิ้งโจทก์นั้น ปรากฏว่าโจทก์เองเป็นฝ่ายจงใจไม่ร่วมอยู่กินกับจำเลย
ที่โจทก์อ้างว่า จำเลยได้ด่าหมิ่นประมาทนั้น ปรากฏว่าเหตุที่จำเลยด่าโจทก์นั้น เกิดจากการทะเลาะและต่างคนต่างด่ากัน ฉะนั้น โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์เพื่อยกเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่
พิพากษายืน