แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากบ้านและที่ดินพิพาทพร้อมกับให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์คดีถึงที่สุดแล้ว ย่อมผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายแพ้คดีให้ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาคือออกจากบ้านและที่ดินพิพาทเมื่อจำเลยขัดขืนไม่ยอมปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์ซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายชนะคดีก็ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาได้ จำเลยจะอาศัยเหตุที่จำเลยฟ้องโจทก์ขอแสดงสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินราชพัสดุมิใช่ที่ดินของโจทก์เป็นคดีขึ้นมาใหม่เพื่อขอให้งดการบังคับคดีนี้ไว้ก่อนหาได้ไม่
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยและบริวารออกไปจากบ้านและที่ดินพิพาทตามฟ้อง โจทก์และศาลได้ออกหมายบังคับคดีจำเลย
จำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีโดยอ้างว่า จำเลยได้ฟ้องโจทก์แสดงสิทธิครอบครอง ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินราชพัสดุ บ้านพิพาทถูกรื้อไปแล้ว บ้านหลังปัจจุบันเป็นบ้านที่จำเลยสร้างขึ้น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าคดีมีเหตุต้องงดการบังคับคดีตามที่จำเลยขอหรือไม่เห็นว่า ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145 วรรคหนึ่ง และมาตรา 271 คำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลที่ให้จำเลยออกไปจากบ้านและที่ดินพิพาทตามฟ้องให้ถือว่าผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความ ถ้าจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายแพ้คดีมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายชนะคดีชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาได้ข้อเท็จจริงในคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาต้องกันให้จำเลยและบริวารออกไปจากบ้านและที่ดินพิพาทพร้อมกับให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษายกฎีกาของจำเลยแล้ว ดังนั้นโดยนัยแห่งกฎหมายดังกล่าวข้างต้นคำพิพากษาอันถึงที่สุดย่อมผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายแพ้คดีจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาคือออกจากบ้านและที่ดินพิพาท เมื่อจำเลยขัดขืนไม่ยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาโจทก์ซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายชนะคดีก็ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาได้ จำเลยจะอาศัยเหตุที่จำเลยฟ้องโจทก์แสดงสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินราชพัสดุมิใช่ที่ดินของโจทก์เป็นคดีขึ้นมาใหม่เพื่อขอให้งดการบังคับคดีนี้ไว้ก่อนหาได้ไม่
พิพากษายืน