คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3279/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มีพยานเห็นเพียงจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่1 และพวกฉุดผู้ตายลงจากรถจักรยานพาเข้าไปข้างทางแต่เมื่อฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 พรากผู้เยาว์ข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าผู้ตายเพื่อปกปิดความผิดและสถานที่ซึ่งผู้ตายถูกข่มขืนกระทำชำเราอยู่ต่อเนื่องกับสถานที่ซึ่งจำเลยที่ 2 กับพวกฉุดผู้ตายลงจากรถเช่นนี้แม้หลังจากนั้นโจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยที่ 2เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำของจำเลยที่1กับพวกอีก มีแต่คำรับของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคำซัดทอดของผู้กระทำผิดด้วยกัน และจำเลยที่ 2 ปฏิเสธข้อหาตามฟ้องโจทก์มาแต่แรกก็ตาม พยานหลักฐานโจทก์ก็ยังคง ฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 พรากผู้ตาย ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และสนับสนุนการกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราแล้ว
เมื่อลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้วจะเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 93 อีกไม่ได้
จำเลยมีความผิด 3 กระทงตามมาตรา 318 วรรคสาม,276 วรรคสอง และ 289(7) ถูกจำคุก 4 ปี,33 ปี 4เดือน และตลอดชีวิตตามลำดับ เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกจำเลยตลอดชีวิตสถานเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา91ที่แก้ไขแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คนร่วมกันพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง และฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 277 ทวิ, 284, 288, 289, 318,83, 91, 93 และเพิ่มโทษจำเลยที่ 1

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ จำเลยที่ 1 รับในข้อเคยต้องโทษ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง, 284 วรรคแรก, 318 วรรคสาม, 288, 289, 83

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันฉุดผู้ตายลงจากรถจักรยานพาเข้าข้างทาง จำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าผู้ตาย วินิจฉัยข้อกฎหมายว่าเมื่อฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกันกับจำเลยที่ 11 และพวกฉุดผู้ตายลงจากรถดังกล่าวมาแล้วและสถานที่ซึ่งผู้ตายถูกข่มขืนกระทำชำเราฟังได้ว่าต่อเนื่องกับสถานที่ซึ่งจำเลยที่ 2 กับพวก ฉุดผู้ตายลงจากรถเช่นนี้ แม้หลังจากนั้นโจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยที่ 2เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำของจำเลยที่ 1 กับพวกอีก มีแต่คำรับของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคำซัดทอดของผู้กระทำผิดด้วยกัน และจำเลยที่ 2 ปฏิเสธข้อหาตามฟ้องโจทก์มาแต่แรกก็ตาม พยานหลักฐานโจทก์ก็ยังคงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกันกับจำเลยที่ 1พรากผู้ตายไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจารอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284 วรรคแรก และมาตรา 318 วรรคสาม อันเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องได้รับโทษตามมาตรา 318 วรรคสาม ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดเพียงบทเดียว และช่วยเหลือในการที่จำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราผู้ตาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสองประกอบกับมาตรา 86 อีกด้วย

พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 284 วรรคแรก, 318 วรรคสาม, 83 อันเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามมาตรา 318 วรรคสาม ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดให้จำคุกคนละ 6 ปีและมีความผิดตามมาตรา 276 วรรคสอง อีกกระทงหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ตลอดชีวิตสำหรับจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนตามมาตรา 86 ประกอบด้วยมาตรา 53ให้จำคุก33 ปี 4 เดือน เฉพาะจำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 289(7) อีกกระทงหนึ่งให้ลงโทษประหารชีวิต แต่ความผิดตามมาตรานี้ลงโทษประหารชีวิตแล้วจึงเพิ่มโทษตามที่โจทก์ขอไม่ได้ ลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสามตามมาตรา 78 คงลงโทษจำเลที่ 1ตามมาตรา 318 วรรคสาม จำคุก 4 ปี ความผิดตามมาตรา 276 วรรคสอง เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 53 เมื่อลดโทษให้แล้วคงจำคุก 33 ปี4 เดือน และความผิดตามมาตรา 289(7) เมื่อลดโทษแล้วคงจำคุกตลอดชีวิตตามมาตรา 52 เมื่อรวมโทษทุกกระทงคงจำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิตสถานเดียวตามมาตรา 91 ที่แก้ไขแล้ว ส่วนจำเลยที่ 2 เมื่อรวมโทษทุกกระทงคงจำคุก 39 ปี 4 เดือน

Share