คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3278/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อผู้ตายซึ่งเป็นคนร้ายได้วิ่งหนีออกจากบ้านจำเลยไปภยันตรายที่จำเลยจะต้องป้องกันนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว การที่จำเลยถือไม้ไล่ตามผู้ตายไปไกลจากบ้านจำเลยถึง 60 เมตร แล้วได้ใช้ไม้ยาวประมาณ 1 เมตร ตีผู้ตายจนถึงแก่ความตาย ทั้ง ๆ ที่ไม่ปรากฏว่าผู้ตายต่อสู้หรือมีอาวุธ เช่นนี้ จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๒๘๘ และริบไม้ท่อนของกลาง
จำเลยที่ ๑ ให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน
จำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๙ ลงโทษจำคุก ๔ ปี ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๒ ปีโทษจำคุกรอการลงโทษไว้ ๒ ปี โดยให้จำเลยที่ ๑ ไปรายงานตัวต่อจ่าศาลทุก ๓ เดือนเป็นเวลา ๑ ปี ริบไม้ของกลาง ยกฟ้องจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ ลงโทษจำคุก ๑๖ ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๘ ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า วันและเวลาเกิดเหตุ ขณะที่จำเลยที่ ๑ นอนอยู่บ้านกับภรรยาและบุตรได้ยินเสียงคนขึ้นบ้าน จึงลุกขึ้นมาเปิดประตูเห็นคนยืนอยู่ที่เชิงบันไดบ้านจำเลยที่ ๑ ร้องขึ้นว่าขโมย แล้วคว้าไม้ที่ใช้หนุนเกวียนซึ่งยาวประมาณ ๑ เมตร วิ่งไล่ตามไประหว่างไล่ตามพบจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ จึงได้ร้องบอกให้ช่วยจับขโมยด้วย เมื่อไล่ไปทันคนร้ายที่คอกหมูของบ้านนางแก้วและคนร้ายไม่สามารถหลบหนีได้อีก จำเลยที่ ๑จึงได้ใช้ไม้ที่นำติดตัวมาตีคนร้าย คอกหมูดังกล่าวนี้ห่างจากบ้านจำเลยที่ ๑ประมาณ ๖๐ เมตร เห็นว่าเมื่อผู้ตายซึ่งเป็นคนร้ายที่ยืนอยู่เชิงบันไดบ้านของจำเลยที่ ๑ได้วิ่งหนีออกจากบ้านจำเลยที่ ๑ ไปเช่นนี้ ภยันตรายที่จำเลยที่ ๑ จะต้องป้องกันนั้นได้ผ่านไปแล้ว การที่จำเลยที่ ๑ ถือไม้ไล่ตามผู้ตายไปถึงคอกหมูบ้านนางแก้วซึ่งอยู่ไกลจากบ้านจำเลยที่ ๑ ถึง ๖๐ เมตร และไม่มีภยันตรายที่จำเลยที่ ๑ จำต้องป้องกันอีกแต่จำเลยที่ ๑ ได้ใช้ไม้ยาวประมาณ ๑ เมตร ตีผู้ตายทั้ง ๆ ที่ไม่ปรากฏว่าผู้ตายต่อสู้หรือมีอาวุธ เช่นนี้ จำเลยที่ ๑ มีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยที่ ๑ นั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยที่ ๑ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share