แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้จำนวน 1 ล้านบาทเศษคดีถึงที่สุดจำเลยไม่มีทรัพย์สินนอกจากสิทธิได้รับเงินบำนาญดังนี้ จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว แม้จำเลยเป็นหนี้โจทก์รายเดียว โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องล้มละลาย กฎหมายมิได้กำหนดว่าลูกหนี้ต้องเป็นหนี้ต่อเจ้าหนี้หลายราย
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาด ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีปัญหาว่าโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายได้หรือไม่ ปรากฏว่าศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้จำนวน 1,491,207 บาท 70 สตางค์แก่โจทก์ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 6226/2521 คดีถึงที่สุด จำเลยไม่ชำระ โจทก์ขอหมายบังคับตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์ จำเลยไม่มีทรัพย์สินนอกจากสิทธิได้รับเงินบำนาญเดือนละ 5,037 บาท 14 สตางค์ ดังนี้ จำเลยเป็นหนี้โจทก์ 1,491,207 บาท 70 สตางค์ มิใช่เป็นหนี้เพียง 20,000 บาท ชำระแล้ว 12,000 บาท คงเป็นหนี้ 8,000 บาท ดังที่จำเลยอ้าง หนี้ดังกล่าว เป็นหนี้จำนวนแน่นอน จึงฟังได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว ถึงแม้ว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์เพียงรายเดียว โจทก์ก็มีสิทธิฟ้อง เพราะการฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลายนั้นกฎหมายมิได้กำหนดว่าลูกหนี้ต้องเป็นหนี้ต่อเจ้าหนี้หลายรายดังนั้นโจทก์มีสิทธิฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายได้”
พิพากษายืน