คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3272/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์ตั้งสภาพข้อกล่าวหาว่าจำเลยอยู่อาศัยบ้านพิพาทของโจทก์โดยการเช่าไม่มีลายลักษณ์อักษร และไม่มีกำหนดระยะเวลา โจทก์ประสงค์จะใช้ประโยชน์เอง บอกกล่าวให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออก จำเลยและบริวารไม่ออกทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายโดยเปรียบเทียบเป็นอัตราค่าเช่าขณะยื่นฟ้อง ดังนี้ ไม่ใช่ฟ้องตามสัญญาเช่า โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องว่า มีข้อสัญญาว่าจำเลยชำระเงินค่าเช่าวิธีใด อย่างไร ผิดนัดค่าเช่าอย่างไร เป็นฟ้องซึ่งบรรยายแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับและข้ออ้างเป็นที่อาศัยแห่งข้อหา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ให้จำเลยเช่าบ้านอยู่อาศัย 7 ปีมาแล้วค่าเช่าเดือนละ 2,600 บาทต่อมาโจทก์ต้องการใช้ประโยชน์จึงบอกเลิกการเช่าให้จำเลยขนย้ายครอบครัวและบริวารออกไปจำเลยเพิกเฉยทำให้โจทก์เสียหายหากให้ผู้อื่นเช่าจะได้ค่าเช่าเดือนละ 5,000 บาทขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารและให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่าบ้านและที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นของนายเชียงพัด แซ่อุ่ยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวนายเชียงพัดซื้อที่ดินพิพาทในนามของโจทก์แล้วนำไปจำนองไว้และได้ขายที่พิพาทให้จำเลย ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากบ้านของโจทก์กับใช้ค่าเสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่าฟ้องโจทก์ตั้งสภาพข้อกล่าวหาว่าจำเลยอยู่อาศัยบ้านพิพาทของโจทก์โดยการเช่าไม่มีลายลักษณ์อักษรและไม่มีกำหนดระยะเวลาโจทก์ประสงค์จะใช้ประโยชน์เองบอกกล่าวให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจำเลยและบริวารไม่ออกทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายโดยเปรียบเทียบเป็นอัตราค่าเช่าขณะยื่นคำฟ้องดังนี้ไม่ใช่การฟ้องตามสัญญาเช่าโจทก์จึงไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่ามีข้อสัญญาว่าจำเลยชำระเงินค่าเช่าวิธีใดอย่างไรผิดนัดค่าเช่าอย่างไรและเป็นฟ้องซึ่งบรรยายแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาคำขอบังคับและข้ออ้างเป็นที่อาศัยแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้วฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ฯลฯ
พิพากษายืน.

Share