คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยได้รับค่าจ้าง 100,000 บาท จากผู้อื่นให้ฆ่าผู้ตายการกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยกระทำความผิดแล้วหลบหนีไปประมาณปีเศษจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ คดีมีประจักษ์พยานโจทก์ปากเดียวการที่จำเลยได้รับต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับและต่อพนักงานสอบสวน กับได้ชี้ที่เกิดเหตุและแสดงแผนประทุษกรรมให้ถ่ายภาพประกอบคดีไว้ ถือว่าคำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ควรลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนกับความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยและริบปลอกกระสุนปืนของกลาง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า การกระทำของจำเลยฟังไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้นข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยได้รับจ้างผู้อื่นฆ่าผู้ตายเป็นเงิน100,000 บาท การกระทำของจำเลยจึงถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1371/2508 ระหว่างอัยการจังหวัดพิษณุโลก โจทก์นายแดง ปุ้ยหลวง กับพวก จำเลยฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น แต่ที่จำเลยฎีกาว่า คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ควรลดโทษให้จำเลยนั้นข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยกระทำความผิดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2527แล้วหลบหนีไป ต่อมาวันที่ 26 มกราคม 2528 จำเลยจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ ประจักษ์พยานโจทก์ก็มีนายทองอยู่ พงษ์นเรศแต่ปากเดียว ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยถูกจับแล้วจำเลยได้รับต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับและต่อพนักงานสอบสวน ได้ชี้ที่เกิดเหตุและแสดงแผนประทุษกรรมให้ถ่ายภาพประกอบคดีไว้นับว่าคำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ควรลดโทษให้จำเลยได้ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 52(2) ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514ข้อ 1 คงจำคุกจำเลยตลอดชีวิต นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”

Share