คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3271/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เป็นการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นในระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1) เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว จำเลยที่ 2 ก็มิได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว สิทธิในการอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 จึงเป็นอันยุติ ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การของจำเลยที่ 2 จึงไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย จำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็ค เมื่อเช็คถึงกำหนด ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินขอให้จำเลยทั้งสองชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การ และจำเลยที่ 1 ขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 2 มิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีได้ความตามท้องสำนวนว่า จำเลยที่ 2อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้น ก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจึงเป็นการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นในระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1)และเมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาในคดีนั้นแล้วจำเลยที่ 2 ก็มิได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งเช่นว่านั้น สิทธิในการอุทธรณ์ของจำเลยจึงเป็นอันยุติการที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การของจำเลยที่ 2 จึงไม่ชอบ
พิพากษายืน

Share