คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3271/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรและมีคำขอให้จำเลยคืนทรัพย์สินหรือใช้ ราคาแทนผู้เสียหายด้วย แม้ผู้เสียหายจะเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการก็ตามเมื่อจำเลยถึงแก่ความตาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์และโจทก์ร่วมย่อมระงับไป และคำขอให้คืนทรัพย์สินหรือใช้ราคาย่อมตกไปด้วย จึงต้องจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๗ และให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งดอกผลแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
สามเณรจินดา มีพวก โดยนางยวนตา มีพวก มารดาผู้แทนโดยชอบธรรมขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๗ จำคุก ๓ ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย คำขอนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยฎีกา
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา นางคำแพง นรชาญ บุตรสาว จำเลย ยื่นคำร้องว่าจำเลยถึงแก่ความตาย
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า เมื่อจำเลยถึงแก่ความตาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์และโจทก์ร่วมย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙ (๑) และคำขอให้คืนหรือใช้เงินย่อมตกไปด้วย จึงให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

Share