แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 257 มิได้กำหนดให้นำหลักทรัพย์อย่างอื่นมาวางศาลบทบัญญัติดังกล่าวให้อำนาจศาลในการใช้ดุลพินิจที่จะสั่งให้ผู้ขอนำเงินตามจำนวนที่เห็นสมควรมาวางศาลเพื่อเป็นประกันสำหรับค่าสินไหมทดแทนซึ่งจำเลยอาจได้รับตามมาตรา 263 หรือจะไม่สั่งให้ผู้ขอนำเงินมาวางศาลก็ได้ ทั้งนี้ย่อมสุดแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควรหรือไม่เป็นเรื่อง ๆ ไป
ย่อยาว
คดีนี้ สืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกจากจำเลย คนละหนึ่งในสี่ส่วนของทรัพย์มรดก มีโคและกระบือรวม 51 ตัว ราคา 50,000 บาท และโจทก์ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งห้ามจำเลยจำหน่าย จ่ายโอนหรือยักย้ายโคกระบือพิพาท
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์แล้ว มีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยโอนขายจำหน่าย หรือยักย้ายโคกระบือตามฟ้องจนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น และให้โจทก์นำเงิน 10,000 บาท มาวางศาลเพื่อประกันความเสียหายซึ่งจำเลยอาจได้รับด้วย
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ขอวางเงินสด 3,000 บาท พร้อมด้วยหลักทรัพย์เพื่อเป็นประกันความเสียหาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้โจทก์นำเงิน 5,000 บาท มาวางศาล
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 257 วรรคสาม มิได้กำหนดให้นำหลักทรัพย์อย่างอื่นมาวางศาลตามบทบัญญัติดังกล่าวให้อำนาจศาลในการใช้ดุลพินิจที่จะสั่งให้ผู้ขอนำเงินตามจำนวนที่เห็นสมควรมาวางศาล เพื่อเป็นประกันสำหรับค่าสินไหมทดแทนซึ่งจำเลยอาจได้รับตามมาตรา 263 หรือจะไม่สั่งให้ผู้ขอนำเงินมาวางศาลก็ได้ทั้งนี้ย่อมสุดแล้วแต่ที่ศาลจะเห็นสมควรหรือไม่เป็นเรื่อง ๆ ไป สำหรับคดีเรื่องนี้ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำเงินมาวาง และที่ศาลอุทธรณ์เห็นควรลดจำนวนเงินลงเหลือ 5,000 บาทนั้น สมควรแก่รูปคดีแล้ว
พิพากษายืน