แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
นายอำเภอได้รับแต่งตั้งเป็นประธานอนุกรรมการช่วยเหลือชาวนาปล่อยให้เลขานุการอนุกรรมการยักยอกปุ๋ย เครื่องสูบน้ำ ฯลฯ และเงินที่ได้รับชำระหนี้คืนจากชาวนา โดยนายอำเภอไม่เอาใจใส่ปฏิบัติงานตามที่ได้รับแต่งตั้ง ถือเป็นประมาทเลินเล่อ ต้องใช้เงินที่ขาดไป
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยใช้เงิน101,054.14 บาทแก่โจทก์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยต้องรับผิดชดใช้เงินตามฟ้องแก่โจทก์หรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเป็นนายอำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานอนุกรรมการช่วยเหลือชาวนามีนายสุพจน์ ฟูงาม เป็นกรรมการและเลขานุการโจทก์ มีเอกสารหมาย จ.1, จ.2,จ.3, จ.4, จ.6 แสดงว่าจำเลยมีอำนาจหน้าที่ตามเอกสารนั้น โดยเฉพาะเอกสารหมาย จ.6 ได้กำหนดให้จำเลยเป็นผู้ทำสัญญากับชาวนาแทนโจทก์ ซึ่งจำเลยได้ทำสัญญากับชาวนาตามเอกสารหมาย จ.12 ซึ่งเป็นสัญญาเช่าซื้อเครื่องสูบน้ำและสัญญาซื้อขายปุ๋ย จำเลยย่อมมีหน้าที่ตามสัญญาที่จะต้องให้ชาวนาคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามสัญญาโดยชำระเงินให้ถูกต้อง จำเลยจะปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นการรับเงินตามสัญญานั้น เห็นว่าจะอ้างเช่นนั้นไม่ได้ จำเลยในฐานะประธานอนุกรรมการก็ต้องมีหน้าที่ดำเนินการตามโครงการช่วยเหลือชาวนาให้เป็นที่เรียบร้อยทุกประการไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงินหรือเรื่องอื่น ๆ การที่จำเลยไม่เอาใจใสในการปฏิบัติงานตามที่ได้รับแต่งตั้งให้สมกับที่ทางราชการไว้วางใจ ถือได้ว่าจำเลยประมาทเลินเล่ออันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ จำเลยต้องรับผิดชดใช้เงินตามฟ้องแก่โจทก์”
พิพากษายืน