แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำเบิกความของ ณ. พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยแต่โจทก์กันไว้เป็นพยานนั้นรับฟังได้ แต่มีน้ำหนักน้อยเมื่อปรากฏว่าคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งห้าได้กล่าวถึงพฤติการณ์ในการปล้นทรัพย์และทำร้ายผู้ตายแล้วนำทรัพย์ไปแบ่งกันโดยละเอียด ตรงกับคำเบิกความของ ณ. ทั้งจำเลยที่ 1ยังนำถุงผ้าขนหนูสำหรับใส่สตางค์ของผู้ตายไปมอบให้พนักงานสอบสวนเป็นของกลาง การนำชี้ที่เกิดเหตุ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยทั้งห้ากระทำต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก และยอมให้ถ่ายภาพ วี.ดี.โอ. ประกอบคดี แสดงว่าจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ จึงเป็นพยาหนหลักฐานประกอบคำเบิกความของ ณ. และพยานแวดล้อมของโจทก์ให้ฟังได้ว่า จำเลยทั้งห้ากับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นตาย
ขณะกระทำผิดจำเลยที่ 2 มีอายุ 17 ปีเศษ สมควรลดมาตราส่วนโทษประหารชีวิตให้หนึ่งในสามตามป.อ. มาตรา 76 ประกอบด้วยมาตรา 52(1) เหลือจำคุกตลอดชีวิต คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา78 เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 53คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งห้าร่วมกันปล้นทรัพย์และฆ่าเจ้าทรัพย์ตายทั้งนี้เพื่อปกปิดความผิดและหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคห้า, 340 ตรี, 289 (7)ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15คืนของกลางให้เจ้าของให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่เจ้าของกับให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1423/2526 ของศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่าจำเลยทั้งห้ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคห้าลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยทั้งห้าตลอดชีวิตคืนของกลางแก่เจ้าของให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 6,980 บาทแก่เจ้าของคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งห้าฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘แม้นายณรงค์ประจักษ์พยานจะเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับจำเลยทั้งห้าแต่เมื่อโจทก์ได้กันนายณรงค์ไว้เป็นพยานคำเบิกความของนายณรงค์ก็อาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้เพียงแต่มีน้ำหนักน้อยมิใช่ว่าจะรับฟังไม่ได้เสียทีเดียวในชั้นสอบสวนจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพโดยกล่าวถึงพฤติการณ์ในการปล้นทรัพย์ตั้งแต่เริ่มวางแผนตลอดจนเข้าทำการปล้นและทำร้ายผู้ตายแล้วนำทรัพย์ไปแบ่งกันที่บ้านจำเลยที่ 1 โดยละเอียดตรงกับคำเบิกความของนายณรงค์ทั้งจำเลยที่ 1 ยังได้นำถุงผ้าขนหนูสำหรับใส่สตางค์ของผู้ตายมอบให้พนักงานสอบสวนเป็นของกลางซึ่งนางสิริพาบุตรผู้ตายยืนยันว่าทรัพย์ของกลางเป็นของผู้ตายและโจทก์มีร้อยตำรวจเอกทวีพันธ์พนักงานสอบสวนเบิกความประกอบว่าจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจได้นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพให้ถ่ายภาพและถ่ายวี.ดี.โอ.ไว้ประกอบคดีและนางสิริพาบุตรผู้ตายก็เบิกความยืนยันว่าขณะที่ทำแผนประทุษกรรมจำเลยทั้งห้าได้รับสารภาพต่อหน้านางสิริพาอีกด้วยทั้งตามภาพถ่ายและวี.ดี.โอ. ที่จำเลยทั้งห้านำชี้ที่เกิดเหตุแสดงแผนประทุษกรรมก็ปรากฏว่าได้กระทำต่อหน้าประชาชนเป็นจำนวนมากเชื่อว่าจำเลยทั้งห้ารับสารภาพในชั้นสอบสวนและนำชี้ที่เกิดเหตุตลอดจนแสดงท่าประกอบคำรับสารภาพด้วยความสมัครใจที่จำเลยทั้งห้าอ้างว่าถูกเจ้าพนักงานตำรวจทำร้ายบังคับให้รับสารภาพและบังคับให้แสดงท่าทางให้ถ่ายภาพไว้นั้นเป็นแต่เพียงคำกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีเหตุผลพอที่จะเชื่อถือการที่นายณรงค์เขียนจดหมายถึงมารดาจำเลยที่ 1 ตามเอกสารหมาย ป.ล.1 นั้นก็ได้ความจากนางทรงศรี ลำยองภริยาจำเลยที่ 1 ว่าต้องการให้มารดาจำเลยที่ 1 มีความสบายใจซึ่งร้อยตำรวจเอกทวีพันธ์เบิกความว่านายณรงค์บอกกับพยานว่าภริยาจำเลยที่ 1 ขอร้องให้เขียนเพื่อให้มารดาจำเลยที่ 1 มีความสบายใจเท่านั้นและแม้นายคนึงจะเบิกความบิดเบือนไปจากที่ให้การไว้ในชั้นสอบสวนบ้างก็หาทำให้รับฟังคำเบิกความของนายคนึงไม่ได้เสียเลยเมื่อจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนด้วยความสมัครใจจึงเป็นหลักฐานประกอบคำเบิกความของนายณรงค์ซึ่งพนักงานสอบสวนกันไว้เป็นพยานและพยานแวดล้อมของโจทก์ดังกล่าวแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งห้ากับพวกได้ร่วมกันปล้นทรัพย์ของผู้ตายและในการปล้นนั้นผู้ตายได้ถูกทำร้ายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย พยานฐานที่อยู่ของจำเลยทั้งห้าไม่มีน้ำหนักพอที่จะฟังหักล้างพยานโจทก์ได้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งห้านั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยทั้งห้าฟังไม่ขึ้นแต่จำเลยที่ 2 กระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดขณะที่มีอายุเพียง 17 ปีเศษสมควรลดมาตราส่วนโทษลงหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 76
พิพากษาแก้เป็นว่าสำหรับจำเลยที่ 2 ลดมาตราส่วนโทษลงหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 76 ประกอบมาตรา 52 (1) จำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 โดยเปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุก 50 ปีตามมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่2 มีกำหนด 33 ปี 4 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์’.