คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาประนีประนอมยอมความมีข้อความเพียงว่า จำเลยยอมชำระหนี้จากกองมรดกของผู้ตายให้โจทก์ ถ้าผิดนัดให้โจทก์ยึดทรัพย์จำนองตามฟ้องและทรัพย์สินอื่นของผู้ตายขายทอดตลาดเอาเงินใช้หนี้โจทก์จนครบเท่านั้น จำเลยจะฎีกาว่า หลังจากเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์แล้ว โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาให้จำเลยผ่อนชำระหนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบจำนวนหาได้ไม่ เพราะเป็นข้อตกลงที่มิได้มีในสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินจากกองมรดกของนางกิมเหรียญ จำนวน 647,199.06 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียม ต่อมาจำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาโจทก์ขอให้บังคับคดีโดยนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน น.ส.3ของจำเลยพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ระหว่างประกาศขายทอดตลาด จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ทรัพย์ถูกยึดนาน 4 ปี ราคาประเมินเปลี่ยนแปลงสูงขึ้น โจทก์จะขายที่ดินแปลงเล็กซึ่งไม่พอชำระหนี้ เป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต ขอให้งดการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า กรณีไม่มีเหตุให้งดการบังคับคดีให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยต้องชำระหนี้ให้โจทก์ให้เสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2521เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์วันที่ 8-9 มกราคม 2529 ประกาศขายทอดตลาดที่ดินครั้งแรกวันที่ 12 กันยายน 2532 และประกาศขายทอดตลาดต่อเนื่องกันมารวม 3 ครั้ง ปรากฏว่าจำเลยได้ขอเลื่อนการขายมาโดยตลอด และครั้งสุดท้ายได้ขอให้งดการบังคับคดีและอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวซึ่งจำเลยมีโอกาสเข้าสู้ราคาทุกครั้งที่มีการขายทอดตลาดหากจำเลยเห็นว่าที่ดินนำออกขายทอดตลาดมีราคาสูงกว่าราคาประเมิน จำเลยจะเข้าสู้ราคาเองหรือหาผู้ที่ต้องการมาสู้ราคาโดยประมูลสูงกว่าราคาประเมินได้ เมื่อนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดมาหักหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว ส่วนที่เหลือจากการชำระหนี้ก็ตกเป็นสิทธิของจำเลย ไม่เกิดผลเสียหายแก่จำเลยจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประเมินราคาที่ดินแปลงเดิมใหม่อีกและวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า สัญญาประนีประนอมยอมความมีข้อความเพียงว่า จำเลยยอมชำระหนี้จากกองมรดกของผู้ตายให้โจทก์ ถ้าผิดนัดให้โจทก์ยึดทรัพย์จำนองตามฟ้องและทรัพย์สินอื่นของผู้ตายขายทอดตลาดเอาเงินใช้หนี้โจทก์จนครบเท่านั้น จำเลยจะฎีกาว่าหลังจากเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์แล้วโจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาให้จำเลยผ่อนชำระหนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบจำนวนหาได้ไม่ เพราะเป็นข้อตกลงที่มิได้มีในสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share