คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3261/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำเบิกความของ ณ. พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยแต่โจทก์กันไว้เป็นพยานนั้นรับฟังได้ แต่มีน้ำหนักน้อยเมื่อปรากฏว่าคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งห้าได้กล่าวถึงพฤติการณ์ในการปล้นทรัพย์และทำร้ายผู้ตายแล้วนำทรัพย์ไปแบ่งกันโดยละเอียด ตรงกับคำเบิกความของ ณ. ทั้งจำเลยที่ 1 ยังนำถุง ผ้าขนหนูสำหรับใส่สตางค์ของผู้ตายไปมอบให้พนักงานสอบสวนเป็นของกลางการนำชี้ ที่เกิดเหตุ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยทั้งห้ากระทำต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก และยอมให้ถ่าย ภาพ วี.ดี.โอ. ประกอบคดีแสดงว่าจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ จึงเป็นพยานหลักฐานประกอบคำเบิกความของ ณ. และพยานแวดล้อมของโจทก์ให้ฟังได้ว่า จำเลยทั้งห้ากับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นตาย ขณะกระทำผิดจำเลยที่ 2 มีอายุ 17 ปีเศษ สมควรลดมาตราส่วนโทษประหารชีวิตให้หนึ่งในสามตาม ป.อ. มาตรา 76 ประกอบด้วย มาตรา52(1) เหลือจำคุกตลอดชีวิต คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา 78 เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิต เป็นโทษจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 2มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งห้าร่วมกันปล้นทรัพย์และฆ่าเจ้าทรัพย์ตายทั้งนี้เพื่อปกปิดความผิด และหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคห้า, 340 ตรี, 289(7)ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514ข้อ 14, 15 คืนของกลางให้เจ้าของ ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่เจ้าของ กับให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1423/2526 ของศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคห้า ลงโทษประหารชีวิต จำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยทั้งห้าตลอดชีวิต คืนของกลางแก่เจ้าของ ให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 6,980 บาท แก่เจ้าของ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งห้าฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “แม้นายณรงค์ประจักษ์พยานจะเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับจำเลยทั้งห้า แต่เมื่อโจทก์ได้กันนายณรงค์ไว้เป็นพยาน คำเบิกความของนายณรงค์ก็อาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้เพียงแต่มีน้ำหนักน้อย มิใช่ว่าจะรับฟังไม่ได้เสียทีเดียวในชั้นสอบสวนจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพโดยกล่าวถึงพฤติการณ์ในการปล้นทรัพย์ตั้งแต่เริ่มวางแผนตลอดจนเข้าทำการปล้นและทำร้ายผู้ตายแล้วนำทรัพย์ไปแบ่งกันที่บ้านจำเลยที่ 1 โดยละเอียดตรงกับคำเบิกความของนายณรงค์ ทั้งจำเลยที่ 1 ยังได้นำถุงผ้าขนหนูสำหรับใส่สตางค์ของผู้ตายมอบให้พนักงานสอบสวนเป็นของกลางซึ่งนางสิริพาบุตรผู้ตายยืนยันว่าทรัพย์ของกลางเป็นของผู้ตายและโจทก์มีร้อยตำรวจเอกทวีพันธ์พนักงานสอบสวนเบิกความประกอบว่าจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจได้นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพให้ถ่ายภาพและถ่าย วี.ดี.โอ. ไว้ประกอบคดีและนางสิริพาบุตรผู้ตายก็เบิกความยืนยันว่า ขณะที่ทำแผนประทุษกรรมจำเลยทั้งห้าได้รับสารภาพต่อหน้านางสิริพาอีกด้วย ทั้งตามภาพถ่ายและ วี.ดี.โอ. ที่จำเลยทั้งห้านำชี้ที่เกิดเหตุแสดงแผนประทุษกรรมก็ปรากฏว่าได้กระทำต่อหน้าประชาชนเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าจำเลยทั้งห้ารับสารภาพในชั้นสอบสวนและนำชี้ที่เกิดเหตุตลอดจนแสดงท่าประกอบคำรับสารภาพด้วยความสมัครใจ ที่จำเลยทั้งห้าอ้างว่าถูกเจ้าพนักงานตำรวจทำร้ายบังคับให้รับสารภาพและบังคับให้แสดงท่าทางให้ถ่ายภาพไว้นั้น เป็นแต่เพียงคำกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีเหตุผลพอที่จะเชื่อถือการที่นายณรงค์เขียนจดหมายถึงมารดาจำเลยที่ 1 ตามเอกสารหมายป.ล.1 นั้น ก็ได้ความจากนางทรงศรี ลำยอง ภริยา จำเลยที่ 1 ว่าต้องการให้มารดาจำเลยที่ 1 มีความสบายใจ ซึ่งร้อยตำรวจเอกทวีพันธ์เบิกความว่า นายณรงค์บอกกับพยานว่าภริยาจำเลยที่ 1 ขอร้องให้เขียนเพื่อให้มารดาจำเลยที่ 1 มีความสบายใจเท่านั้น และแม้นายคนึงจะเบิกความบิดเบือนไปจากที่ให้การไว้ในชั้นสอบสวนบ้างก็หาทำให้รับฟังคำเบิกความของนายคนึงไม่ได้เสียเลย เมื่อจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนด้วยความสมัครใจ จึงเป็นหลักฐานประกอบคำเบิกความของนายณรงค์ซึ่งพนักงานสอบสวนกันไว้เป็นพยานและพยานแวดล้อมของโจทก์ดังกล่าว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งห้ากับพวกได้ร่วมกันปล้นทรัพย์ของผู้ตายและในการปล้นนั้นผู้ตายได้ถูกทำร้ายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย พยานฐานที่อยู่ของจำเลยทั้งห้าไม่มีน้ำหนักพอที่จะฟังหักล้างพยานโจทก์ได้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งห้านั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยทั้งห้าฟังไม่ขึ้น แต่จำเลยที่ 2 กระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดขณะที่มีอายุเพียง 17 ปีเศษ สมควรลดมาตราส่วนโทษลงหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76
พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับจำเลยที่ 2 ลดมาตราส่วนโทษลงหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ประกอบมาตรา 52(1) จำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78โดยเปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 53คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”.

Share