คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีแพ่งจำเลยฟ้องโจทก์ว่าผิดสัญญาเช่าบ้านที่ขายฝากและละเมิดนั้น แม้โจทก์ขายฝากเรือนแก่จำเลย 4,000 บาท แต่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีแพ่งว่าขายฝากกันราคา 6,400 บาท ก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนสัญญาขายฝาก ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงสิทธิหน้าที่หรือความรับผิดระหว่างโจทก์จำเลยในคดี และการรับเงินระหว่างโจทก์จำเลยจะรับกันต่อหน้าเจ้าพนักงานหรือไม่ก็ไม่สำคัญ คำเบิกความของจำเลยจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี คดีโจทก์ไม่มีมูลฐานเบิกความเท็จตามมาตรา 177

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ฟ้องโจทก์ในคดีแพ่งดำที่ ๒๕๗/๒๕๐๗ ในข้อหาผิดสัญญาเช่าและละเมิด จำเลยให้การเป็นพยานว่า โจทก์ขายฝากเรือนให้จำเลย ๖,๔๐๐ บาท และจ่ายเงินให้โจทก์ต่อหน้าเจ้าหน้าที่อำเภอ ความจริงโจทก์ขายฝากในราคา ๔,๐๐๐ บาท ทั้งมิได้จ่ายเงินในราคาขายฝากต่อหน้าเจ้าหน้าที่อำเภอเป็นสารสำคัญในคดี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๗๗ วรรคแรก
ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี คดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โจทก์ขายฝากเรือนแก่จำเลย ๔,๐๐๐ บาท แต่จำเลยเบิกความว่าขายฝากกันในราคา ๖,๔๐๐ บาท ก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนสัญญาขายฝากระหว่างโจทก์จำเลย และไม่มีผลเปลี่ยนแปลงสิทธิและหน้าที่ หรือความรับผิดระหว่างโจทก์จำเลยในคดีเรื่องนั้นแต่อย่างใด และการรับเงินระหว่างโจทก์จำเลยจะรับกันต่อหน้าเจ้าพนักงานหรือไม่ก็ไม่สำคัญเช่นเดียวกัน คำเบิกความของจำเลยจึงไม่ใช่สารสำคัญในคดีนั้น คดีโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายืน.

Share