คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การที่จะอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินโดยไม่ชอบนั้น จะต้องปรากฏว่าการขายทอดตลาดนั้นขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกฎกระทรวงที่ว่าด้วยเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์สินเมื่อผู้แทนโจทก์ค้านเฉพาะราคาทรัพย์สินพิพาทว่าผู้เข้าประมูลสู้ราคาประมูลราคาต่ำไป และโจทก์นำสืบแต่เพียงว่าราคาประมูลต่ำกว่าราคาที่สำนักงานวางทรัพย์กลางประเมินไว้โดยไม่มีหลักฐานอื่นประกอบให้เห็นว่าราคาทรัพย์สินพิพาทที่แท้จริงควรจะเป็นจำนวนเท่าใด และในการขายทอดตลาดดังกล่าวไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าการประมูลซึ่งทรัพย์สินพิพาทที่ขายทอดตลาดเป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อหรือไม่สุจริต การขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทจึงชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

มูลกรณีสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีตกลงขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยแก่ผู้ร้องในฐานะผู้ซื้อทรัพย์ที่ให้ราคาสูงสุด โจทก์ยื่นคำร้องว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดโดยมิชอบ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ในปัญหาที่ว่าการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 308บัญญัติว่า “เมื่อศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ขายแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีอาจขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดได้เมื่อพ้นระยะเวลาอย่างน้อยห้าวันนับแต่วันที่ยึด การขายนั้นให้ดำเนินตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และกฎกระทรวงว่าด้วยการนั้น และตามข้อกำหนดของศาลซึ่งระบุไว้ในคำสั่งอนุญาตให้ขายทรัพย์สินนั้น…”ตามบทบัญญัติดังกล่าวการที่จะอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินโดยไม่ชอบนั้นจะต้องปรากฏว่าการขายทอดตลาดนั้นขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และกฎกระทรวงที่ว่าด้วยเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์สิน คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่าทรัพย์สินพิพาทที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดและประกาศขายทอดตลาดสำนักงานวางทรัพย์กลางประเมินราคาไว้ 1,600,000 บาทเจ้าพนักงานบังคับคดีขออนุญาตศาลชั้นต้นขายทอดตลาด ศาลชั้นต้นอนุญาตเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาทรวมทั้งหมด12 ครั้ง ในการประมูลขายทอดตลาดครั้งที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 มีผู้เข้าประมูลสู้ราคา แต่ให้ราคาต่ำ ผู้แทนโจทก์ขอให้งดการขายและให้ประกาศขายทอดตลาดใหม่ ส่วนการประมูลขายทอดตลาดครั้งที่ 5ถึงที่ 11 ไม่มีผู้สนใจเข้าประมูลสู้ราคา คงมีผู้สนใจเข้าประมูลสู้ราคาในการประมูลขายทอดตลาดครั้งที่ 12 จำนวน 2 ราย ผู้ร้องประมูลสู้ราคาสูงสุดจำนวน 1,170,000 บาท ผู้แทนโจทก์ค้านว่าราคาต่ำไป เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาทแก่ผู้ร้อง ปรากฏตามหนังสือกองยึดอายัดและจำหน่ายทรัพย์สินกรมบังคับคดี ลงวันที่ 19 มีนาคม 2530 เรื่อง เสนอรายงานข้อเท็จจริงในการบังคับคดีซึ่งอยู่ในอันดับที่ 85 ในสำนวน เห็นว่า ผู้แทนโจทก์ไม่ได้คัดค้านว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาทไม่ถูกต้อง คงค้านเฉพาะราคาทรัพย์สินพิพาทว่าผู้เข้าประมูลสู้ราคาประมูลราคาต่ำไป และในเรื่องราคาทรัพย์สินพิพาทโจทก์ก็นำสืบแต่เพียงว่าราคาประมูลต่ำกว่าราคาที่สำนักงานวางทรัพย์กลางประเมินไว้ ไม่มีหลักฐานอื่นประกอบให้เห็นว่าราคาทรัพย์สินพิพาทที่แท้จริงควรจะเป็นจำนวนเท่าใดเมื่อพิจารณาถึงการดำเนินการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ได้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาทตั้งแต่ต้นจนถึงวันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งให้ขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาทรวมทั้งสิ้น12 ครั้ง ปรากฏว่ามีผู้เข้าประมูลสู้ราคาเพียง 3 ครั้ง แต่ละครั้งประมูลราคาต่ำกว่าผู้ร้อง ทั้งไม่ปรากฏว่าในการขายทอดตลาดมีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าการประมูลซื้อทรัพย์สินพิพาทที่ขายทอดตลาดเป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อหรือไม่สุจริต ศาลฎีกาเห็นว่า ราคาที่ผู้ร้องประมูลซื้อทรัพย์สินพิพาทในการขายทอดตลาดเป็นราคาที่เหมาะสมที่โจทก์ฎีกาว่า การขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2529 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ใช่ราคาสูงสุดที่ประมูลกันอย่างเปิดเผยนั้นเห็นว่า ประเด็นดังกล่าวโจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวตั้งแต่ศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share