คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนต่างด้าวนำเรือและอวนเข้ามาจับสัตว์น้ำในน่านน้ำสยามเป็นผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิจับสัตว์น้ำและ พ.ร.บ.อากรค่าน้ำ ต้องลงโทษตาม พ.ร.บ.อากรค่าน้ำซึ่งเป็นบทหนัก การริบทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิ์จับสัตว์น้ำสยามบัญญัติไว้ต่างหากจากกฎหมายอาญา มาตรา 27
ในเรื่องค่าสินบนนำจับถ้าโจทก์ไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องในการขอให้ใช้ค่าสินบนศาลไม่ตัดสินให้
อ้างฎีกาที่ 76/2472,770/2480,1168/2480
เกาะซึ่งเป็นอาณาเขตต์สยาม อยู่ห่างฝั่ง 20 ไมล์ไม่มีคนอยู่และกรมการอำเภอไม่เคยไปที่เกาะนั้นเลยก็คงถือว่าเป็นอาณาเขตต์สยาม ใครจะยกการครอบครองขึ้นยันรัฐไม่ได้สนธิสัญญาสยามกับยี่ปุ่น ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.218,220 คดีคนในบังคับยี่ปุ่นเป็นจำเลย ฎีกาภายหลังวันยกเลิกสิทธิถอนคดี แต่ศาลล่างทั้ง 2 พิพากษาปรับจำเลยอย่างสูง 500 บาท จำเลยฎีกาไม่แต่ฉะเพาะในปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยเป็นคนบังคับยี่ปุ่นนำเรือจากสิงค์โปร์เข้ามาจับปลาห่างจากเกาะรอกประมาณ ๓๐๐-๔๐๐ เมตร์ เกาะรอกอยู่ห่างฝั่งประมาณ ๒๐ ไมล์ เป็นเกาะไม่มีคนอยู่ กรมการอำเภอก็ไม่เคยไปที่เกาะนี้ จำเลยและผู้ร้องอ้างว่าเรือที่ใช้จับปลาจำเลยเช่าจากผู้ร้อง ผู้ร้องไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการเข้ามาจับปลารายนี้
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยเข้ามาจับปลาในน่านน้ำสยามให้ลงโทษจำเลยตามพ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิ์จับสัตว์น้ำสยาม พ.ศ.๒๔๗๗ ม.๕,๑๐ เรือและเครื่องมือจับสัตว์น้ำให้ริบ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามพ.ร.บ.อากรค่าน้ำ ร.ศ.๑๒๐ ม.๒๐ ซึ่งเป็นบทหนัก กับให้จำเลยใช้ค่าสินบนนำจับคนละ ๕ บาท ธงยี่ปุ่นให้คืนจำเลย
จำเลยและผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกากล่าวว่า คดีนี้จำเลยฎีกาได้ฉะเพาะข้อกฎหมาย แล้ววินิจฉัยว่าเกาะรอกนั้น เมื่อเป็นอาณาเขตต์สยามแล้ว ก็ไม่มีปัญหาเรื่องครอบครอง จะยกเอาการครอบครองขึ้นเถียงรัฐไม่ได้ และจำเลยจับสัตว์น้ำห่างเกาะเพียง ๓๐๐-๔๐๐ เมตต์ ย่อมได้ชื่อว่าจับสัตว์น้ำในน่านน้ำสยาม และคดีนี้นำ พ.ร.บ.อากรค่าน้ำ ร.ศ.๑๒๐ มาลงโทษแก่จำเลยได้เพราะไม่ขัดกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิ์จับสัตว์น้ำสยาม สำหรับเรื่องค่าสินบนนำจับนั้น ศาลฎีกายกคำพิพากษาฎีกาขึ้นกล่าว ๓ เรื่องแล้วตัดสินว่า โจทก์มิได้ปฏิบัติตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกา ส่วนในเรื่องริบเรือและเครื่องมือจับสัตว์น้ำนั้นเห็นว่า ไม่อยู่ในบังคับมาตรา ๒๗ แห่งกฎหมายอาญา ศาลมีอำนาจใช้ดุลยพินิจริบของกลางในคดีนี้ได้ ฎีกาจำเลยจึงเป็นข้อเท็จจริง จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ฉะเพาะค่าสินบนนำจับ คือให้ยกเสีย

Share