คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3257/2527

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องนอนในบ้านซึ่งเป็นเคหสถานของผู้เสียหายในขณะผู้เสียหายนอนหลับอยู่ แล้วจำเลยได้กระทำอนาจารผู้เสียหาย ดังนี้ เป็นการกระทำต่อเนื่องยังมิได้ขาดตอน และเจตนาของจำเลยก็เพื่อกระทำอนาจารเท่านั้น แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องเป็นการกระทำสองตอน คือบุกรุกเข้าไปในเคหสถานและกระทำอนาจารซึ่งจำเลยรับสารภาพก็ตาม จะลงโทษจำเลยหลายกรรมต่างกันเป็นหลายกระทงความผิดมิได้ต้องลงโทษฐานกระทำอนาจารตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278, 364, 365, 91 ฐานบุกรุก จำคุก 1 ปี ฐานกระทำอนาจาร จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม มาตรา 278 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 1 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีคงมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท หรือเป็นความผิดหลายกรรม พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องนอนในบ้านซึ่งเป็นเคหสถานของผู้เสียหาย ในขณะที่ผู้เสียหายนอนหลับอยู่แล้ว จำเลยได้กระทำอนาจารผู้เสียหาย เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำต่อเนื่องยังมิได้ขาดตอน และเจตนาของจำเลยก็เพื่อกระทำอนาจารผู้เสียหายเท่านั้น แม้ว่าโจทก์จะบรรยายฟ้องเป็นการกระทำสองตอนคือ บุกรุกเข้าไปในเคหสถานและการกระทำอนาจาร ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพก็ตาม จะลงโทษจำเลยหลายกรรมต่างกันเป็นหลายกระทงความผิดมิได้ต้องลงโทษฐานกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share