แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ถ้าไม่มีกฎหมายโดยตรงและประเพณีให้ใช้กฎหมายที่ใกล้เคียง ผู้แทนโดยชอบธรรมต้องศาลทั้ง
ที่ดิน พ.ร.บ. ออกโฉนดที่ดิน ร.ศ. 127 ม. 65 – 66 ให้ยื่นคำร้องต่อศาลตั้งผู้แทนของผู้เยาว์
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงมีว่า เมื่อโจทก์ชำระหนี้แทนจำเลยซึ่งเป็นเหตุให้เกิดฟ้องร้องคดีนี้ จำเลยมีอายุ ๑๓ ปี บิดามารดาถึงแก่กรรมหมดแล้ว จำเลยอยู่กับนางบางผู้เป็นย่า นางเพิ่มมิได้เกี่ยวข้องเป็นญาติกับจำเลยก็อยู่ร่วมกับนางบางนางเพิ่มเป็นผู้วิ่งเต้นจัดการให้โจทก์ใช้หนี้แทนโดยอ้างว่าเป็นผู้แทนโดยชอบธรรม สัญญานี้ทำกันระวางนางบางยังมีชีวิตอยู่ ในที่สุดคู่ความตกลงกันให้ศาลวินิจฉัยประเด็นข้อเดียวว่า นางเพิ่มได้กระทำการแทนจำเลยในฐานะเป็นผู้ปกครองจำเลยหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ปรากฎว่าได้มีใครร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้แทนโดยชอบธรรมของจำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในเรื่องนี้ไมม่มีคำร้องอย่างใดยื่นต่อศาลเพื่อขอให้ศาลตั้งใครเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของจำเลย กับเห็นว่าตามประมวลแพ่งม.๔ วรรค ๓ ควรนำหลักกฎหมายใน พ.ร.บ. ออกโฉนดที่ดิน ร.ศ. ๑๒๗ ม. ๖๕ และ๖๖ ซึ่งบัญญัติให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีอำนาจตั้งผู้แทนโดยชอบธรรม เว้นแต่บิดาหรือมารดาของผู้เยาว์เข้ากระทำการแทนมาใช้เพราะฉะนั้นนางเพิ่มไม่มีอำนาจจะทำการแทนจำเลย ๆ ไม่ต้องรับผิดให้ยกฟ้อง