คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3248/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ใบโฆษณาขายที่ดินในโครงการจัดสรรที่ดินของจำเลยที่ 1 ระบุว่า ที่ดินในโครงการมีเนื้อที่ 200 ไร่ ซึ่งตามใบโฆษณาก็มีเครื่องหมาย “ฯลฯ” ไว้ด้านหลังข้อความ โฉนดเลขที่ 48513 ถึง 48535 ที่โจทก์อ้างว่ามีชื่อนาง ล. เป็นเจ้าของมิใช่จำเลยที่ 1 ซึ่งมีความหมายว่า นอกจากที่ดินทั้ง 23 แปลง ดังกล่าวที่มีเนื้อที่รวมเพียง 3 ไร่เศษ นี้แล้วยังมีที่ดินแปลงอื่น ๆ อีก ทั้งใบโฆษณายังระบุอีกว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุญาตจัดสรรที่ดิน แต่จำเลยที่ 1 ไม่สามารถดำเนินการขออนุญาตจัดสรรที่ดินให้แล้วเสร็จได้เนื่องจากจำเลยที่ 1 ประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจถูกเจ้าหนี้ฟ้องหลายราย ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และโจทก์ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้วก่อนที่โจทก์จะฟ้องจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 เป็นคดีนี้ ดังนั้น ยังไม่ฟังว่าจำเลยทั้งห้าโฆษณาหลอกลวงโจทก์ว่าจะจัดสรรที่ดินโดยไม่มีเจตนาที่จะจัดสรรที่ดินจริง การกระทำของจำเลยทั้งห้าจึงไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งห้าร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 366,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินจำนวน 290,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งห้าให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่าศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการของจำเลยที่ 1 คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของจำเลยที่ 1 ซึ่งโจทก์ก็ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้ว ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีชั่วคราวสำหรับจำเลยที่ 1
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โครงการจัดสรรที่ดินของจำเลยที่ 1 มีเนื้อที่ถึง 200 ไร่ ซึ่งตามใบโฆษณาก็ได้ระบุเครื่องหมาย “ฯลฯ” ไว้ด้านหลังข้อความโฉนดเลขที่ 48513 ถึง 48535 แล้วอันมีความหมายว่านอกจากที่ดินทั้ง 23 แปลงนี้แล้วยังมีที่ดินแปลงอื่น ๆ อีก จำเลยที่ 1 ไม่สามารถดำเนินการขออนุญาตจัดสรรที่ดินให้แล้วเสร็จได้เนื่องจากจำเลยที่ 1 ประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจถูกเจ้าหนี้ฟ้องหลายราย ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน้อยกว่าพยานหลักฐานของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 พยานหลักฐานของโจทก์ตามที่นำสืบยังไม่พอให้รับฟังว่าจำเลยทั้งห้าโฆษณาหลอกลวงโจทก์ว่าจะจัดสรรที่ดินโดยไม่มีเจตนาที่จะจัดสรรที่ดินจริงดังที่โจทก์ฎีกา จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งห้ากระทำละเมิดต่อโจทก์
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share