คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3248/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นผู้รักษาการตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2525ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทราบถึงบุคคลที่ถูกเพิกถอนสัญชาติ รวมทั้งโจทก์ด้วยตามข้อ 4 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าวดังนี้ จำเลยมิได้เป็นผู้เพิกถอนสัญชาติของโจทก์ จำเลยจึงมิได้ โต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้ศาล พิพากษาว่าโจทก์มีสัญชาติไทย และโดยที่โจทก์ยังคงเป็นผู้ถูกเพิกถอนสัญชาติไทยอยู่ตามที่จำเลยได้รับแจ้งจาก กระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้างต้น ฉะนั้น การที่จำเลยมีคำสั่งให้นายทะเบียนท้องถิ่นจำหน่ายโจทก์ออกจากทะเบียนบ้านให้หัวหน้าสำนักงานกิจการญวนอุดรธานีมีคำสั่งให้โจทก์มาทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพ และให้พนักงานที่ดินจังหวัดอุดรธานี ทำการบังคับจำหน่ายที่ดินของโจทก์ อันเป็นการกระทำภายในขอบเขตของหนังสือกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว จึงถือไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งหรือการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์หามีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยและขอให้ห้ามจำเลยและบริวารปฏิบัติการตามหน้าที่ได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า บิดามารดาของโจทก์เป็นคนสัญชาติญวน ได้รับอนุญาตให้เข้าอยู่ในประเทศไทยโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์เกิดในประเทศไทยจึงได้สัญชาติไทยจำเลยได้มีคำสั่งเพิกถอนสัญชาติของโจทก์ อ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวต้องถูกเพิกถอนสัญชาติไทย ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ แล้วจำเลยมีคำสั่งให้นายทะเบียนท้องถิ่นจำหน่ายโจทก์ออกจากทะเบียนบ้าน ให้หัวหน้าสำนักงานกิจการญวนอุดรธานีมีคำสั่งให้โจทก์ทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพ และให้พนักงานที่ดินจังหวัดอุดรธานีทำการบังคับจำหน่ายที่ดินของโจทก์ซึ่งเป็นการไม่ชอบ ขอให้มีคำสั่งว่าโจทก์มีสัญชาติไทย คำสั่งของจำเลยลงวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๑ เฉพาะที่เกี่ยวกับโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว และห้ามจำเลยหรือบริวารโต้แย้งสิทธิในเรื่องสัญชาติไทยของโจทก์ต่อไป
จำเลยให้การว่า โจทก์ต้องถูกเพิกถอนสัญชาติโดยผลแห่งกฎหมายตามคำสั่งของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ คำสั่งของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าโจทก์มีสัญชาติไทย ขอให้เพิกถอนคำสั่งของจังหวัดอุดรธานีจำเลยลงวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๑ (คำสั่งที่ ๕๕๒/๒๕๒๑ ตามเอกสารท้ายฟ้อง)กับห้ามจำเลยและบริวารโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในเรื่องสัญชาติ จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยมิได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องดังนี้คดีจึงมีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ อันเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความเรียบร้อยของประชาชน พิเคราะห์แล้ว ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์และคำสั่งของจำเลยที่ ๕๕๒/๒๕๒๑ ตามเอกสารท้ายฟ้อง ปรากฏว่าโจทก์ต้องถูกเพิกถอนสัญชาติไทย ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๑๕ ซึ่งตามประกาศดังกล่าวข้อ ๔. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามประกาศฉบับนี้และกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้จำเลยทราบถึงบุคคลที่ถูกเพิกถอนสัญชาติรวมถึงโจทก์ด้วย ดังนี้เห็นว่าจังหวัดอุดรธานีจำเลยมิได้เพิกถอนสัญชาติของโจทก์ มิได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์นั้นแต่ประการใด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจังหวัดอุดรธานีจำเลยขอให้พิพากษาแสดงว่าโจทก์มีสัญชาติไทย และโดยที่โจทก์ยังคงเป็นผู้ถูกเพิกถอนสัญชาติไทยอยู่ ตามที่จำเลยได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้างต้นแล้ว ฉะนั้น การที่จังหวัดอุดรธานีจำเลยออกคำสั่งที่ ๕๕๒/๒๕๒๑ แล้วปฏิบัติการต่าง ๆ ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยลับที่ (เลขที่ไม่ชัด) /๖๗๔ ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๑๗ ตามที่อ้างในคำสั่งของจำเลยดังกล่าวเกี่ยวกับโจทก์ในฐานะผู้ถูกเพิกถอนสัญชาติไทยไปนั้น คำสั่งที่ ๕๕๒/๒๕๒๑ และการปฏิบัติการต่าง ๆ ของจำเลยภายในขอบเขตของหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่อ้างข้างต้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งหรือการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์หามีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งและขอให้ห้ามจำเลยและบริวารปฏิบัติการตามหน้าที่นั้น โดยขอให้บังคับตามคำขอท้ายฟ้องนั้นแต่ประการใดไม่
พิพากษายืน

Share