คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3244/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำให้การของจำเลยที่ต่อสู้ในเรื่องอายุความว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว โจทก์สิ้นสิทธิที่จะดำเนินคดีนี้กับจำเลยโดยจำเลยมิได้แสดงไว้ชัดแจ้งว่า คดีขาดอายุความเรื่องอะไรและเพราะเหตุใดนั้น เป็นคำให้การที่ไม่ถูกต้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรค 2ไม่ก่อให้เกิดประเด็นในคดี ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่าสิทธิฟ้องเรียกเงินคืนของโจทก์ขาดอายุความแล้วจึงเป็นการนอกประเด็น ปัญหานี้แม้โจทก์มิได้ยกขึ้นอ้างอิงในฎีกาแต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีจำนวน536,319.66 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2526 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยเป็นหนี้โจทก์ และคดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่ตามฟ้อง และคดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า สิทธิฟ้องเรียกเงินคืนของโจทก์ขาดอายุความแล้ว พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่าฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความนั้น เห็นว่าโจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้เงินกู้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี จำเลยให้การต่อสู้ในเรื่องอายุความว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว โจทก์สิ้นสิทธิที่จะดำเนินคดีนี้กับจำเลย โดยจำเลยมิได้แสดงไว้ชัดแจ้งว่าคดีขาดอายุความเรื่องอะไรและเพราะเหตุใด คำให้การของจำเลยจึงไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรค 2 ไม่ก่อให้เกิดประเด็นในคดี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าสิทธิฟ้องเรียกเงินคืนของโจทก์ขาดอายุความแล้ว จึงเป็นการนอกประเด็น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย แม้ปัญหานี้โจทก์มิได้ยกขึ้นอ้างอิงในฎีกา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และฎีกาให้เป็นพับ”.

Share