แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ระเบิดขวดเป็นอาวุธที่มีดินระเบิดบรรจุอยู่ในขวดเมื่อขว้างไปกระทบกับของแข็งขวดแตกระเบิดเป็นชิ้นๆ แหลมคมกระจายไป เมื่อถูกร่างกายย่อมทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายถึงบาดเจ็บจำเลยขว้างระเบิดขวด ผู้เสียหายคนหนึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณใบหน้าและโหนกแก้ม บาดแผลมีลักษณะเพียงถลอก ไม่ปรากฏว่าสะเก็ดระเบิดถูกโดยตรงหรือเฉี่ยวไป แต่ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ที่เอว เห็นได้ว่าระเบิดขวดนี้มีความร้ายแรงมากหากสะเก็ดระเบิดนั้นถูกอวัยวะสำคัญอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย ไม่ใช่เพียงทำร้ายร่างกาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ลูกระเบิดขวดขว้างทำร้ายร่างกายนายปรีชาปานน้อย กับนางสาวพิมพา อ่อนเกิดแก้ว เป็นเหตุให้นายปรีชาและนางสาวพิมพาได้รับอันตรายแก่กาย ทั้งนี้ โดยจำเลยมีเจตนาฆ่าคนทั้งสองให้ตาย จำเลยกระทำผิดไปตลอดแล้ว แต่ไม่บรรลุผล เพราะสะเก็ดระเบิดขวดไม่ถูกอวัยวะที่สำคัญ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายร่างกายเท่านั้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ ให้จำคุก ๑ ปี ๖ เดือน
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ ให้จำคุก ๑๐ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในชั้นนี้จำเลยฎีกาแต่เพียงว่า โจทก์ไม่สืบให้ปรากฏว่าลูกระเบิดขวดลูกที่สองที่จำเลยขว้างนั้นเล็กใหญ่ขนาดไหน มีอำนาจระเบิดทำลายเพียงใดมีอนุภาพอาจทำให้ตายได้หรือไม่ จำเลยมิได้มีสาเหตุบาดหมางกับผู้เสียหายและผู้ใดจำเลยขว้างปาเล่นเพื่อความสนุกคึกคนอง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น เห็นว่าระเบิดขวดเป็นอาวุธที่มีดินระเบิดบรรจุในขวด เมื่อขว้างไปกระทบกับของแข็งขวดแตกระเบิดเป็นชิ้น ๆแหลมคมกระจายไป เมื่อถูกร่างกายย่อมทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายถึงบาดเจ็บตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้องปรากฏว่านายปรีชามีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดยาวประมาณ ๕ เซนติเมตรที่บริเวณเอวด้านหลัง อาจรักษาให้หายภายในเวลา ๕ วัน นางสาวพิมพามีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณใบหน้าและที่โหนกแก้ม อาจรักษาให้หายภายในเวลา ๕ วัน บาดแผลของนางสาวพิมพาที่โหนกแก้มมีลักษณะเป็นบาดแผลถลอกไม่ปรากฏว่าสะเก็ดระเบิดถูกโดยตรงหรือเฉี่ยวไป ไม่อาจประมาณความร้ายแรงของสะเก็ดระเบิดได้ แต่บาดแผลที่เอวของนายปรีชายาวประมาณ ๕ เซนติเมตรนั้น เห็นได้ว่าสะเก็ดระเบิดขวดที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดในคดีนี้มีความร้ายแรงมาก หากสะเก็ดระเบิดนั้นถูกอวัยวะสำคัญอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน