คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3242/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์ ในชั้นบังคับคดี ผู้ร้องอ้างว่าเป็นเจ้าของบ้านพิพาทผู้ร้องไม่ใช่บริวารจำเลย ซึ่งหากเป็นความจริง โจทก์จะใช้คำพิพากษาคดีนี้บังคับแก่ผู้ร้องมิได้ ทั้งตามคำร้องผู้ร้องอ้างว่าโจทก์ได้ฟ้องขับไล่ผู้ร้องกับพวกเป็นจำเลยให้ออกจากบ้านพิพาทคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล ถ้าให้โจทก์บังคับคดีไปหากภายหลังผู้ร้องเป็นฝ่ายชนะคดีในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่ผู้ร้องดังกล่าวก็จะกระทบถึงสิทธิของผู้ร้องอาจทำให้ผู้ร้องเสียหาย จึงต้องรับคำร้อง ของผู้ร้องไว้พิจารณาต่อไป

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อบ้านเลขที่ 161/2 ถนนโกสีย์ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์จังหวัดนครสวรรค์ ออกไปจากที่ดินของโจทก์ทั้งสอง และห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์อีกต่อไป คดีถึงที่สุดแล้วในชั้นบังคับคดีผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของบ้านเลขที่161/2 ผู้ร้องมิใช่เป็นบริวารของจำเลย โจทก์ได้ฟ้องขับไล่ผู้ร้องให้ออกจากบ้านเลขที่ 161/2 และที่ดินพิพาทเป็นอีกคดีหนึ่งคดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น หากโจทก์บังคับคดีนี้จะเกิดความเสียหายแก่ผู้ร้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการรื้อบ้านเลขที่ 161/2 ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์จังหวัดนครสวรรค์ ไว้จนกว่าคดีของผู้ร้องจะถึงที่สุด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามคำร้องกรณีไม่มีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292, 293 ให้ยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า กรณีคำขอของผู้ร้องเป็นการตั้งข้อพิพาทกับโจทก์ในชั้นบังคับคดี ผู้ร้องมีสิทธิร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 7(2), 296 พิพากษากลับ ให้รับคำร้อง ของผู้ร้องไว้พิจารณาต่อไป โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 161/2 ซึ่งปลูกบนที่ดินพิพาท ผู้ร้องมิใช่เป็นบริวารของจำเลย ระหว่างนี้ผู้ร้องถูกโจทก์ฟ้องให้รื้อถอนบ้านออกไปจากที่ดินพิพาทเป็นอีกคดีหนึ่ง จึงขอให้ระงับการรื้อถอนบ้านไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ตามคำร้องดังกล่าวเห็นว่าผู้ร้องมิได้อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นของโจทก์ คำร้อง ของผู้ร้องจึงมิใช่เป็นการตั้งข้อพิพาทกับโจทก์ในชั้นบังคับคดี หากแต่เป็นเพียงคำขอให้ศาลมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292ปัญหาจึงมีว่า มีเหตุสมควรให้มีการงดการบังคับคดีไว้ตามที่ขอมาหรือไม่ ในข้อนี้เห็นว่า ผู้ร้องอ้างว่าเป็นเจ้าของบ้านพิพาทผู้ร้องมิใช่บริวารจำเลยซึ่งหากเป็นความจริงโจทก์จะใช้คำพิพากษาคดีนี้บังคับแก่ผู้ร้องมิได้ ทั้งตามคำร้อง ผู้ร้องอ้างอีกว่าโจทก์ได้ฟ้องขับไล่ผู้ร้องกับพวกเป็นจำเลยให้ออกจากบ้านพิพาทเป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 612/2528 ของศาลชั้นต้น คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล หากให้โจทก์บังคับคดีไปหากภายหลังผู้ร้องเป็นฝ่ายชนะคดีในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่ผู้ร้องดังกล่าวก็จะกระทบถึงสิทธิของผู้ร้องอาจทำให้ผู้ร้องเสียหาย จึงชอบที่จะรับคำร้อง ของผู้ร้องไว้พิจารณาต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล”
พิพากษายืน

Share