แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กล่าวคำว่า เขาว่าครูชาติหมาสอนให้เด็กชกต่อยกันดังนี้ไม่เป็นถ้อยคำหมิ่นประมาทตาม มาตรา 282
ถ้อยคำที่กล่าวตามภาษาไทยธรรมดานั้นศาลเป็นผู้พิจารณาความหมายได้เอง คู่ความไม่ต้องนำสืบแสดงความหมาย
ถ้าในฟ้องไม่ได้แสดงว่า คำที่จำเลยกล่าวมีความหมายเป็นพิเศษแล้วศาลก็ถือว่าเป็นคำกล่าวตามธรรมดาสามัญ
ย่อยาว
จำเลยกล่าวต่อหน้าบุคคลหลายคนว่า “อ้ายครูกำจร ครูชาติหมาสอนให้เด็กชกต่อยกัน” โจทก์ฟ้องว่า คำกล่าวนั้นอาจทำให้นายกำจรเสียชื่อเสียงและให้คนทั้งหลายดูหมิ่นเกลียดชังได้ขอให้ลงโทษตาม มาตรา 282 จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำที่กล่าวนั้นไม่เป็นหมิ่นประมาทตามมาตรา 282 ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า อันถ้อยคำที่บุคคลกล่าวตามภาษาไทยธรรมดานั้น จะมีความหมายอย่างไรคนธรรมดาจะเข้าใจได้ศาลย่อมรู้ได้เอง คู่ความไม่ต้องนำสืบ เว้นแต่โจทก์จะกล่าวหาว่าถ้อยคำนั้นมีความหมายเป็นพิเศษ คดีนี้ตามฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องกล่าวถ้อยคำตามธรรมดาสามัญ เมื่อพิเคราะห์คำที่จำเลยกล่าวแล้วเห็นว่า ถ้อยคำที่กล่าวนอกจากเป็นคำหยาบแล้ว มีความหมายเพียงว่าครูสอนให้เด็กชกกัน ซึ่งคนทั่วไปย่อมไม่เห็นเป็นการใส่ร้ายอย่างใด จึงไม่เป็นผิดตาม มาตรา 282 จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลล่าง