คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3238/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การจับกุมกับการสอบสวนเป็นคนละขั้นตอนกัน ถ้าการสอบสวนชอบด้วยกฎหมาย แม้การจับกุมอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายก็หา กระทบกระเทือนถึงการฟ้องคดีอาญาไม่ พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้องคดีได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๑๔๙, ๑๕๗
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๙ ลงโทษจำคุกคนละ ๕ ปี ลดโทษให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ คนละ ๓ ปี ๔ เดือน
จำเลยที่ ๓ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามฎีกาของจำเลยที่ ๓ ว่า ในชั้นอุทธรณ์จำเลยที่ ๓ อุทธรณ์ว่า การจับกุมคุมขังจำเลยของเจ้าพนักงานเป็นไปโดยมิชอบและเป็นการคุมขังที่ผิดกฎหมาย ย่อมถือว่าการสอบสวนเป็นไปโดยมิชอบ แต่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้ทั้งที่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นว่าการจับกุมกับการสอบสวนเป็นการดำเนินการคนละขั้นตอนกัน เมื่อการสอบสวนได้ดำเนินไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ถึงแม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่าการจับกุมคุมขังอาจมิชอบด้วยกฎหมายก็เป็นเรื่องที่จะว่ากล่าวกันอีกส่วนหนึ่งต่างหาก หาทำให้การสอบสวนซึ่งชอบด้วยกฎหมายแล้วนั้นกระทบกระเทือนถึงการฟ้องคดีอาญาไม่
พิพากษายืน

Share