แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์มอบอำนาจให้ ด.เป็นตัวแทนมีอำนาจยื่นฟ้องเป็นคดีอาญา คดีแพ่งและหรือคดีล้มละลาย ด. จึงมีอำนาจแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีแพ่งแทนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 60 วรรคสอง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายดามพ์ทวีป จันทร์สมบูรณ์ดำเนินคดีแทน จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ไปจำนวน 40,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่จำเลยกู้เงินไปจากโจทก์ จำเลยไม่เคยชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ โจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์หลายครั้ง แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า นายดามพ์ทวีปไม่มีอำนาจแต่งตั้งนายณัฐชัยเป็นทนายเรียงและลงชื่อในฟ้องคดีนี้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ประการที่ 3 หนังสือมอบอำนาจตามเอกสารหมาย จ.11 มิได้ระบุให้อำนาจนายดามพ์ทวีปแต่งตั้งทนายความได้แต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่ามีอำนาจแต่งตั้งทนายความได้จึงไม่ชอบ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 60 บัญญัติว่า “คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือผู้แทนโดยชอบธรรมในกรณีที่คู่ความเป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือผู้แทนในกรณีที่คู่ความเป็นนิติบุคคล จะว่าความด้วยตนเองและดำเนินกระบวนพิจารณาทั้งปวงตามที่เห็นสมควร เพื่อประโยชน์ของตนหรือจะตั้งแต่งทนายความคนเดียวหรือหลายคนให้ว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตนก็ได้
ถ้าคู่ความหรือผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้แทนดั่งที่ได้กล่าวมาแล้วทำหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลใดเป็นผู้แทนตนในคดีผู้รับมอบอำนาจเช่นว่านั้นจะว่าความอย่างทนายความไม่ได้ แต่ย่อมตั้งทนายความเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาได้” เมื่อหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.11 ข้อ (2) ได้มอบอำนาจให้นายดามพ์ทวีปเป็นตัวแทนมีอำนาจยื่นฟ้องเป็นคดีอาญาคดีแพ่งและหรือคดีล้มละลายนายดามพ์ทวีปจึงมีอำนาจแต่งตั้งทนายความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 วรรคสอง ดังกล่าวที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามาต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา”
พิพากษายืน