คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 322/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้พิพากษาที่ไม่ได้นั่งฟังคำพะยานโจทก์จำเลย แต่ได้ออกนั่งพิจารณาสอบถาม โจทก์จำเลยแลจดรายงานพิจารณานั้น ถือว่าได้นั่งพิจารณาคดีเพียงพอตามกฎกระทรวงยุตติธรรมที่ 5 วิธีพิจารณาอาชญา คำสั่งระวางพิจารณา

ย่อยาว

คดีนี้ศาลเดิมฟังว่าเมื่อคราวรัฐบาลปราบขบถ จำเลยกล่าวข้อความเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลอันอาจทำให้ราษฎรกะด้างกะเดืองดูหมิ่นเกลียดชังรัฐบาลให้จำคุกจำเลย ๔ เดือน ตาม ม.๑๐๔ ที่แก้ไขแล้ว
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ส. ผู้พิพากษาเป็นแต่จดรายงานเมื่อสืบพะยาน ๒ ฝ่ายเสร็จแล้ว มิได้นั่งฟังคำพะยานโจทก์จำเลย จะลงนามในคำพิพากษาไม่ได้ตามกฎกระทรวงยุตติธรรมข้อ ๕ จึงย้อนสำนวนให้ศาลเดิมพิจารณาพิพากษาใหม่
ศาลฎีกาฟังว่าเดิม ป.พ. ผู้พิพากษา และ ร.อธิบดีนั่งพิจารณาคดีนี้ด้วยกัน สืบพะยานโจทก์จำเลยบางคนแล้ว ส่งประเด็นไปสืบพะยานจำเลยที่ศาลอาชญาระวางนี้ พ.แล ร. ย้ายไปศาลอื่น ส. มาแทนพ. ศาลอาชญาส่งประเด็นกลับมาแต่ยังไม่สิ้นสำนวนโดยปรากฎว่าจำเลยขออ้างคำให้การคนอื่นอีก ส.ออกนั่งพิจารณา จำเลยแถลงว่าไม่ติดใจสืบพะยาน และขอเลื่อนการตัดสินจากวันนั้นไปวันที่ ๓๐/๑๒/๒๔๗๖ โดยจำเลยจะยื่นคำแถลงการณ์ เมื่อเวลาตัดสิน ส. กับ ป. ลงนามในคำพิพากษาศาลฎีกาเห็นว่า ส. นั่งพิจารณาคดีนี้เพียงพอตามกฎที่ ๕ แล้ว เพราะว่าก่อนที่ ส. ออกถามโจทก์จำเลยแลจดรายงานนั้น จะถือว่าคดีสิ้นสำนวนความยังไม่ได้ แลตามกฎไม่บังคับว่าต้องนั่งพิจารณาทุกอย่างทุกครั้งตั้งแต่ต้นจนที่สุด จึงย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ตัดสินใหม่

Share