คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3219/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ซึ่งจำเลยเบียดบังเอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว เป็นการฟ้องเพื่อติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินที่จำเลยเอาของโจทก์ไปโดยมิชอบ โจทก์ในฐานะเจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีกำหนดอายุความ ไม่ใช่เป็นกรณีเรียกร้องให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามมาตรา 448 คดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างที่จำเลยยังรับราชการในตำแหน่งขนส่งจังหวัดจันทบุรีได้เบียดบังเอาท่อประปาพร้อมอุปกรณ์รวม 10 รายการเป็นเงิน 3,691 บาท น้ำมันเบนซินจำนวน 7,763.90 ลิตร เป็นเงิน 32,966.58 บาท และน้ำมันเครื่อง 1 กระป๋อง ราคา 68 บาท อันเป็นทรัพย์สินของโจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวของจำเลย ทำให้โจทก์เสียหายรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 36,755.58 บาท โจทก์ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นทำการสอบสวนซึ่งได้รายงานผลให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2520 โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยนำเงินจำนวนดังกล่าวมาชดใช้ให้โจทก์ แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยมอบทรัพย์สินคืนให้โจทก์ ถ้าส่งคืนไม่ได้ก็ให้ใช้ราคารวม 36,755.58 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การว่า คณะกรรมการที่โจทก์แต่งตั้งได้รายงานผลให้โจทก์ทราบนับจนถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี คดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว จำเลยไม่ได้เอาทรัพย์สินของโจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว จำเลยได้จัดหาต่อเติมปรับปรุงท่อประปาพร้อมอุปกรณ์ตามรายการในฟ้องเพื่อกิจการของโจทก์ส่วนน้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องตามฟ้อง จำเลยใช้เพื่อประโยชน์แก่ทางราชการตามระเบียบของทางราชการครบถ้วน ราคาค่าเสียหายไม่ถูกต้องขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ และจำเลยได้เบียดบังเอาทรัพย์สินของโจทก์ไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวคิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 8,862.63 บาท พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนท่อประปาพร้อมอุปกรณ์ตามฟ้อง น้ำมันเบนซินจำนวน 1,553.92 ลิตรและน้ำมันเครื่อง 1 กระป๋อง หรือใช้ราคารวม 8,862.63 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาท่อประปาพร้อมอุปกรณ์ น้ำมันเบนซิน และน้ำมันเครื่องของโจทก์ซึ่งจำเลยเบียดบังเอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว เป็นการฟ้องเพื่อติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินที่จำเลยเอาของโจทก์ไปโดยมิชอบ โจทก์ในฐานะเจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีกำหนดอายุความ กรณีนี้ไม่ใช่เป็นกรณีเรียกร้องให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตาม มาตรา 448 อายุความจึงไม่ใช่ 1 ปีตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยและที่จำเลยฎีกา คดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ

พิพากษายืน

Share