คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ตามคำฟ้องของโจทก์ทั้งสามสำนวนในคดีก่อนและคำฟ้องโจทก์ทั้งสามในคดีนี้ตรงกันว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสามในคราวเดียวกัน ทั้งอ้างเหตุที่จำเลยเลิกจ้างว่าโจทก์ทั้งสามอายุครบ55 ปีบริบูรณ์อย่างเดียวกัน แต่ฟ้องของโจทก์ทั้งสามในคดีนี้กล่าวอ้างเหตุเพิ่มว่าโจทก์ทั้งสามยังไม่เกษียณอายุ จำเลยเลิกจ้างไม่เป็นธรรม เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อหาใหม่ ซึ่งปรากฏว่าโจทก์ทั้งสามยอมรับตามสัญญาประนีประนอมยอมความตามข้อ 1 ในคดีก่อนว่า ระเบียบข้อบังคับของจำเลยในการทำงานกำหนดว่าพนักงานโรงงานเกษียณอายุเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ดังนั้นเหตุที่จำเลยเลิกจ้างในคดีนี้ก็เพราะโจทก์ทั้งสามมีอายุครบ 55 ปีซึ่งเกษียณอายุนั่นเอง ประเด็นคดีนี้จึงประเด็นที่ต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับในคดีก่อนซึ่งได้ว่ากล่าวกันมาแล้วซึ่งมีมูลมาจากการเลิกจ้างของจำเลยในคราวเดียวกัน ฟ้องของโจทก์ทั้งสามคดีนี้ที่อ้างเหตุต่าง ๆ เพิ่ม ก็ไม่ทำให้มีประเด็นเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ฟ้องโจทก์ทั้งสามคดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 31

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสามสำนวนฟ้องว่า โจทก์ทั้งสามเป็นลูกจ้างของจำเลยจำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสาม โดยโจทก์ทั้งสามไม่ได้กระทำความผิดยังไม่ครบเกษียณอายุ และโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าเสียหายและเงินบำเหน็จแก่โจทก์ทั้งสามพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ทั้งสามเคยฟ้องจำเลยเป็นคดีหมายเลขดำที่ 528/2534, 551/2534 และ 536/2534 ตามลำดับ และศาลแรงงานกลางได้มีคำพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าวแล้ว โจทก์ทั้งสามกลับนำคดีมาฟ้องจำเลยอีกในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยโดยอาศัยมูลเหตุอย่างเดียวกันเป็นคดีนี้ ฟ้องของโจทก์ทั้งสองเป็นฟ้องซ้ำ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง โจทก์ทั้งสามสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัย “ตามคำฟ้องของโจทก์ทั้งสามสำนวนในคดีก่อนและคำฟ้องโจทก์ทั้งสามในคดีนี้ตรงกันว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสามในคราวเดียวกัน ทั้งอ้างเหตุที่จำเลยเลิกจ้างว่าโจทก์ทั้งสามอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์อย่างเดียวกัน แต่ฟ้องของโจทก์ทั้งสามในคดีนี้กล่าวอ้างเหตุเพิ่มว่าโจทก์ทั้งสามยังไม่เกษียณอายุ จำเลยเลิกจ้างไม่เป็นธรรม เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อหาใหม่ ซึ่งปรากฏว่าโจทก์ทั้งสามยอมรับตามสัญญาประนีประนอมยอมความตามข้อ 1 ในคดีก่อนว่าระเบียบข้อบังคับของจำเลยในการทำงานกำหนดว่าพนักงานโรงงานเกษียณอายุเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ดังนั้นเหตุที่จำเลยเลิกจ้างในคดีนี้เพราะโจทก์ทั้งสามมีอายุครบ 55 ปี ซึ่งเกษียณอายุนั่นเอง ประเด็นคดีนี้จึงประเด็นที่ต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับในคดีก่อนซึ่งได้ว่ากล่าวกันมาแล้ว เป็นที่เห็นได้ว่ามีมูลมาจากการเลิกจ้างของจำเลยในคราวเดียวกันนั่นเอง ฟ้องของโจทก์ทั้งสามคดีนี้ที่อ้างเหตุต่าง ๆ เพิ่ม ก็ไม่ทำให้มีประเด็นเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ดังนั้น ฟ้องโจทก์ทั้งสามคดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 31 ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share