แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ เมื่อสัญญาเช่าหมดอายุ จำเลยตกลงเช่าต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา ต่อมาโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าต่อ จึงบอกเลิกการเช่าให้จำเลยส่งมอบที่เช่าคืนโจทก์ เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้วแม้จะมิได้บรรยายถึงวันเวลาที่จำเลยเช่าอัตราค่าเช่า และเงื่อนไขข้อตกลงต่าง ๆ มาในฟ้อง ก็เป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้ ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่15500 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร จำเลยเช่าที่ดินเฉพาะส่วนของที่ดินโฉนดดังกล่าวเนื้อที่ 100 ตารางวา จากโจทก์เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าแล้ว จำเลยตกลงเช่าต่อโดยไม่มีกำหนดเวลาต่อมาโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าต่อไปจึงให้ทนายความมีหนังสือบอกเลิกการเช่า จำเลยทราบแล้วเพิกเฉยและยังคงอยู่ในที่ดินดังกล่าว เป็นการละเมิดทำให้โจทก์เสียหาย หากโจทก์ให้ผู้อื่นเช่าจะได้ค่าเช่าอย่างต่ำเดือนละ 3,000 บาท ขอคิดค่าเสียหายเดือนละ 3,000 บาท นับแต่วันเลิกสัญญาจนถึงวันฟ้องเป็นเวลา 1 ปี7 เดือน รวมค่าเสียหายเป็นเงิน 57,000 บาท ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 15500 แขวงบางจาก เขตพระโขนงกรุงเทพมหานคร ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องที่ดินดังกล่าวต่อไป กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 57,000 บาท และอีกเดือนละ 3,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะส่งมอบที่ดินคืนแก่โจทก์ จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่บรรยายให้ชัดว่าจำเลยเช่าที่ดินโจทก์เมื่อใด มีข้อตกลงคิดค่าเช่ากันอย่างไร และเช่าที่ดินส่วนไหนของโจทก์ ที่ดินส่วนที่โจทก์ฟ้องซึ่งปลูกตึกแถวเลขที่ 2287-2289 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนงกรุงเทพมหานคร ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 15500 แขวงบางจากเขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ให้จำเลยส่งมอบที่ดินดังกล่าวคืนโจทก์ห้ามเกี่ยวข้องต่อไป กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย (ก่อนฟ้อง) เป็นเงิน57,000 บาท และค่าเสียหายเป็นรายเดือนอีกเดือนละ 3,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินและส่งมอบที่ดินคืนแก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 2,000 บาท นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2523 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินของโจทก์นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยฎีกาข้อแรกว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมนั้น เห็นว่า โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่า เดิมจำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินเฉพาะส่วนของที่ดินโฉนดเลขที่ 15500 แขวงบางจากเขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร จากโจทก์เนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวาต่อมาเมื่อสัญญาเช่าหมดอายุลง จำเลยตกลงเช่าที่ดินแปลงดังกล่าวต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา ต่อมาโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าที่ดินแปลงดังกล่าวต่อไป จึงได้มอบให้ทนายความของโจทก์มีหนังสือลงวันที่ 23 มิถุนายน 2523 บอกเลิกการเช่า ให้จำเลยส่งมอบที่เช่าคืนโจทก์ภายในกำหนด 30 วัน จำเลยได้รับหนังสือบอกเลิกการเช่าดังกล่าวแล้ว เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว โจทก์ไม่จำต้องบรรยายถึงรายละเอียดเกี่ยวกับวันเวลาที่จำเลยเช่าที่ดินจากโจทก์ อัตราค่าเช่าที่ดินและเงื่อนไขข้อตกลงต่าง ๆ มาในฟ้อง เพราะโจทก์สามารถนำสืบรายละเอียดเหล่านี้ในชั้นพิจารณาได้ ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม”
พิพากษายืน