คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3150/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยซึ่งเป็นพนักงานขับรถยนต์ละทิ้งหน้าที่ไม่ขับรถยนต์นำหัวหน้างานและคนงานไปปฏิบัติงานตามคำสั่งและได้มอบหมายให้ จ. คนงานรายวันเป็นผู้ขับแทนโดยมิได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา เป็นการปฏิบัติขัดต่อคำสั่งเรื่อง การใช้รถยนต์ในส่วนภูมิภาคของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ถือได้ว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานระหว่างโจทก์จำเลย เมื่อ จ. ได้ขับรถยนต์โดยประมาท ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องรับผิดในความเสียหายที่โจทก์ได้รับ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเคยเป็นลูกจ้างโจทก์ตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์มีหน้าที่ขับรถยนต์ของโจทก์ที่เขตจังหวัดต่าง ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจำเลยได้รับมอบหมายให้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ๘๓ – ๖๘๖๙ กรุงเทพมหานครไปปฏิบัติงานที่อำเภออรัญประเทศ จำเลยได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวรับช่างและคนงานจากที่ทำการ ไฟฟ้าอรัญประเทศไปปฏิบัติงานในหมู่บ้านต่าง ๆ แต่ในระหว่างทางจำเลยได้ละทิ้งหน้าที่โดยมอบหมายให้นายจันทร์ คนงานรายวันของโจทก์ขับแทนโดยพลการ และผิดระเบียบคำสั่งของโจทก์เพื่อตนเองไปทำธุระส่วนตัว นายจันทร์ได้ขับรถยนต์ด้วยความประมาทเลินเล่อ ทำให้รถยนต์ตก จากถนนพลิกคว่ำเป็นเหตุให้คนงานรายวันตาย ๒ คน บาดเจ็บ ๓ คน รถเสียหายโจทก์ต้องเสียค่าซ่อมและจ่ายเงินต่าง ๆ แก่คนงานดังกล่าวไปรวมเป็นเงิน ๑๔๕,๘๓๖.๖๖ บาท จำเลยกระทำผิดหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงาน จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้จำเลยจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้โจทก์
จำเลยให้การว่า เช้าวันเกิดเหตุนายวิสุทธิชัย หัวหน้าจำเลยสั่งให้จำเลยขับรถยนต์คันเกิดเหตุไปรับนายวิทยา หัวหน้าคนงานกับคนงานไปปฏิบัติงานในช่วงเช้า จำเลยได้ปฏิบัติตามคำสั่งโดยรับหัวหน้าคนงานและคนงานชุดที่ ๑ มาลงชื่อและเวลาทำงานที่ที่ทำการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภออรัญประเทศ แล้วมาที่จุดรถจอดรับประทานอาหารแล้วจำเลยได้ขออนุญาตนายวิทยาเพื่อไปส่งภรรยาจำเลยกลับกรุงเทพมหานครและจะกลับมาทำงานในช่วงบ่าย นายวิทยาอนุญาตและจำเลยได้แนะนำให้นายจันทร์เป็นผู้ขับแทน นายจันทร์ขับรถยนต์ไปรับนายสมยศหัวหน้าคนงานและคนงานชุดที่ ๒ ต่อจากนั้นนายสมยศเป็นผู้ขับแทนนายจันทร์ไปบ้านหนองผักแว่นที่จะไปปฏิบัติงานแต่ไปไม่ถึง รถยนต์เกิดขัดข้อง นายสมยศนำรถยนต์กลับไปทำการซ่อมจนเวลาบ่ายจึงได้เดินทางไปปฏิบัติงานโดยนายจันทร์เป็นผู้ขับไป เมื่อปฏิบัติงานเสร็จนายจันทร์ขับรถยนต์กลับและเกิดอุบัติเหตุขึ้น จำเลยไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามคำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางว่า ในการปฏิบัติงานในเขตจังหวัดปราจีนบุรีนี้ จำเลยต้องอยู่ใต้บังคับบัญชาของร้อยตรีมนัส รื่นพล หัวหน้าโครงการเร่งรัดพัฒนาไฟฟ้าชนบทในวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๒๕ เวลาประมาณ ๗ นาฬิกา หลังจากลงชื่อและเวลาทำงานแล้วจำเลยบอกกับนายวิทยา ร่มไทร นายช่างหัวหน้าคนงานว่าจำเลยจะพาภรรยาไปขึ้นรถยนต์กลับกรุงเทพมหานคร และให้นายจันทร์ สุพรรณประดิษฐ์ คนงานรายวันเป็นผู้ขับแทนโดยจำเลยรับกับนายวิทยาว่าจะรับผิดชอบเอง เมื่อปฏิบัติงานเสร็จแล้วนายจันทร์ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวของโจทก์นำช่างและคนงานกลับแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นการกระทำของจำเลยเป็นการละทิ้งหน้าที่เพราะนายวิทยาไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาของจำเลยที่จะอนุญาตได้ ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ได้มีคำสั่งที่พ.๖๑/๒๕๐๔ เรื่องการใช้รถยนต์ในส่วนภูมิภาคของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ลงวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๐๔ เอกสารหมาย จ.๑๐ หน้า ๔๔ อันเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างระหว่างโจทก์จำเลยโดยกำหนดไว้ในข้อ ๓ ว่า พนักงานคนใดที่ได้รับการแต่งตั้งจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้เป็นพนักงานขับรถยนต์ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการขับขี่รถยนต์และรักษารถยนต์ให้คงอยู่ในสภาพที่เรียบร้อยเสมอ และกำหนดไว้ในข้อ ๙ ว่า ในการขับขี่รถยนต์ห้ามเปลี่ยนมือผู้ขับขี่โดยไม่จำเป็นและห้ามบุคคลภายนอกทำการขับขี่รถยนต์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอย่างเด็ดขาด กับกำหนดไว้ในข้อ ๑๓ ว่า ผู้ใดปฏิบัติฝ่าฝืนคำสั่งนี้ จะได้รับการพิจารณาโดยสถานหนัก พิจารณาตามคำสั่งของโจทก์ดังกล่าวมาแล้วนี้จะเห็นได้ว่าโจทก์มีเจตนาที่จะระมัดระวังและป้องกันมิให้พนักงานขับรถของโจทก์คนใดกระทำการอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ และเป็นหน้าที่ของพนักงานขับรถทุกคนจะต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด หากฝ่าฝืนแม้จะเกิดความเสียหายแก่โจทก์หรือไม่ก็ตามผู้ฝ่าฝืนอาจได้รับการพิจารณาโทษในสถานหนัก การที่จำเลยละทิ้งหน้าที่โดยไม่ขับรถยนต์นำหัวหน้างานและคนงานไปปฏิบัติงานตามคำสั่ง และได้มอบหมายให้นายจันทร์ สุพรรณประดิษฐ์ คนงานรายวันเป็นผู้ขับแทนโดยมิได้รับอนุญาตจากร้อยตรีมนัส รื่นพล ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลยเช่นนี้ เป็นการปฏิบัติขัดต่อคำสั่งของโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.๑๐ ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างนั้น ถือได้ว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานระหว่างโจทก์จำเลยแล้ว เมื่อนายจันทร์ซึ่งได้รับมอบหมายจากจำเลยให้เป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวของโจทก์ และนายจันทร์ได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อโดยก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นเช่นนี้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องรับผิดในความเสียหายทั้งหลายที่โจทก์ได้รับ อุทธรณ์ของโจทก์ในปัญหาข้อนี้ฟังขึ้น สำหรับค่าเสียหายและดอกเบี้ยที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์จะเป็นจำนวนเท่าใดนั้นเป็นข้อเท็จจริงซึ่งศาลแรงงานกลางยังมิได้วินิจฉัย กรณีจึงจำต้องย้อนสำนวนให้ศาลแรงงานกลางได้วินิจฉัยปัญหาข้อนี้ต่อไป
พิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลางให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยในประเด็นเรื่องค่าเสียหายแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

Share