แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 เรื่องระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ข้อ 32 วรรคสอง บัญญัติว่า กรมมีอธิบดีเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชาข้าราชการ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของกรม ฯลฯ เช่นนี้ ต้องถือว่าโจทก์มีอธิบดีคนเดียวเท่านั้นเป็นผู้แทน จะถือว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนของโจทก์เป็นผู้แทนของโจทก์ด้วยหาได้ไม่ เมื่อปรากฏว่าอธิบดีโจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนวันที่ 18กุมภาพันธ์ 2528 นับถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2529 ซึ่งเป็นวันฟ้องยังไม่พ้นกำหนด 1 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลมีนายจำลอง ศาลิคุปตเป็นอธิบดี จำเลยที่ 1 เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 2 และเป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 80-3546 ระยอง จำเลยที่ 2ได้ขับรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวด้วยความประมาท ชนหลักกันเสาไฟฟ้าจำนวน 2 ต้น เสาไฟฟ้าแสงสว่างชนิดกิ่งเดียวจำนวน 1 ต้น ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 27,038.75 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า เหตุคดีนี้เกิดตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม2526 และโจทก์รู้ถึงตัวผู้จะต้องรับผิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2526โจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2529 เป็นระยะเวลาเกินกว่า1 ปี คดีโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 27,038.75บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 22,300บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้เป็นคดีที่ฎีกาได้แต่เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย จำเลยที่ 1 ฎีกาในข้อกฎหมายว่า ผู้แทนโจทก์ตามกฎหมายมิใช่หมายถึงอธิบดีแต่ผู้เดียว เจ้าหน้าที่ทั้งหลายของโจทก์ถือว่าเป็นผู้แทนของโจทก์ด้วย คดีนี้เจ้าหน้าที่ของโจทก์รู้ตัวผู้จะพึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2526นับถึงวันฟ้องเกิน 1 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาจำต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทกรมในรัฐบาล มีนายจำลองศาลิคุปต เป็นอธิบดี ตามวันเวลาเกิดเหตุตามฟ้องจำเลยที่ 2ขับรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 1 ชนหลักกันเสาไฟฟ้าและเสาไฟฟ้าของโจทก์เสียหาย นายจำลองอธิบดีโจทก์ทราบเรื่องราวและตัวผู้จะพึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่ของโจทก์เมื่อวันที่18 กุมภาพันธ์ 2528 ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 218 เรื่องระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ข้อ 32 วรรคสองบัญญัติว่า กรมมีอธิบดีเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชาข้าราชการ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของกรม ฯลฯ เช่นนี้ต้องถือว่าโจทก์มีนายจำลองอธิบดีคนเดียวเท่านั้นเป็นผู้แทน จะถือว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนของโจทก์เป็นผู้แทนของโจทก์ด้วยหาได้ไม่ เมื่อปรากฏว่านายจำลองอธิบดีโจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2528 นับถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2529 ซึ่งเป็นวันฟ้องยังไม่พ้นกำหนด 1 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว
พิพากษายืน