คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3141/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกู้เงินโจทก์ไปไถ่จำนองที่ดินและบ้านอันเป็นสินสมรส หนี้รายนี้จึงเป็นหนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรสอันเป็นหนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1490 (2) ผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาจำเลยไม่มีสิทธิร้องขอกันส่วนของตน

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดียึดโฉนดเลขที่ ๑๐๐๕๖๐ พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยเพื่อนำออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเคยเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลย ที่ดินและบ้านดังกล่าวเป็นของผู้ร้องและจำเลยที่ร่วมกันซื้อมาระหว่างสามีภริยา เป็นสินสมรส ผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ครึ่งหนึ่งขอให้กันเงินที่ขายได้กึ่งหนึ่งแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า หนี้คดีนี้เป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยาโจทก์มีสิทธิยึดทรัพย์ดังกล่าวมาขายทอดตลาดได้ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยกู้เงินตามที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ไปไถ่จำนองที่ดินและบ้านอันเป็นสินสมรส แล้ววินิจฉัยว่า หนี้รายนี้จึงเป็นหนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรสอันเป็นหนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๔๙๐ (๒) ผู้ร้องซึ่งเป็นภริยา จำเลยไม่มีสิทธิร้องขอกันส่วนของผู้ร้องได้
พิพากษายืน.

Share