คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3140/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องและจำเลยแถลงยอมรับข้อเท็จจริงตามฟ้องข้อเท็จจริงย่อมรับฟังได้ตามฟ้อง แม้จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโอนขายที่ดินบางแปลงตามบัญชีทรัพย์มรดกท้ายฟ้องให้แก่บุคคลอื่นและศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดไปแล้วก็ตามคำพิพากษาดังกล่าวก็ไม่ผูกพันโจทก์ที่1ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินดังกล่าวและมิได้เป็นคู่ความในคดีนั้นด้วย

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ที่ 1 เป็น ภริยา ที่ชอบ ด้วย กฎหมาย ของนาย สด กูรมะโรหิต จดทะเบียนสมรส เมื่อ วันที่ 27 มกราคม 2478ณ นครปักกิ่ง ประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อน สมรส โจทก์ ที่ 1มี สินเดิม เป็น สังหาริมทรัพย์ และ อสังหาริมทรัพย์ แต่ ฝ่ายเดียว มี บุตรด้วยกัน 5 คน คือ โจทก์ ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 จำเลย และ นาย กุลภัทร กูรมะโรหิต มี ที่ดิน เป็น สินสมรส รวม 34 แปลง ตาม บัญชีทรัพย์ ท้ายฟ้อง หมายเลข 8 ต่อมา นาย สด ถึงแก่กรรม ศาล มี คำสั่ง ตั้ง จำเลย เป็น ผู้จัดการมรดก จำเลย เคย แบ่ง ทรัพย์มรดก ให้ แก่ นาย กุลภัทร เป็น เงิน จำนวน 10,000,000 บาท โดย นาย กุลภัทร ไม่ติดใจ เรียกร้อง ทรัพย์มรดก อื่น อีก และ ยัง ไม่เคย แบ่ง ทรัพย์มรดก ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ เลยโจทก์ ทั้ง สี่ ทวงถาม แล้ว จำเลย เพิกเฉย ขอให้ บังคับ จำเลย แบ่ง สินสมรสตาม บัญชีทรัพย์ ท้ายฟ้อง หมายเลข 8 ออก เป็น สินสมรส ให้ แก่ โจทก์ ที่ 1สอง ใน สาม ส่วน ส่วน ที่ เหลือ หนึ่ง ใน สาม ส่วน ตกเป็น ทรัพย์มรดก ให้ จำเลยแบ่ง ออก เป็น ห้า ส่วน แบ่ง ให้ โจทก์ ทั้ง สี่ คน ละ ส่วน เท่า ๆ กัน หาก จำเลยไม่ยอม ปฏิบัติ ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย
จำเลย ให้การ ว่า เหตุ ที่ ยัง มิได้ จัดการ แบ่ง ทรัพย์มรดก เพราะถูก คุณหญิง พงา ดุลยธรรมธาดาราชวรสภาบดี ฟ้อง ขอให้ จำเลย โอน ที่ดิน ของ นาย สด จำนวน 39 แปลง และ คดี ยัง ไม่ แล้ว เสร็จ นอกจาก นี้ ที่ดิน มรดก ส่วน ใหญ่ เป็น ที่ดิน ที่ มี เพียง สิทธิ ครอบครอง ซึ่งจำเลย กำลัง ดำเนินการ ขอ ออก โฉนด ที่ดิน อยู่ จำเลย ไม่มี เจตนา ที่ จะ ไม่แบ่ง ทรัพย์มรดก แต่อย่างใด ขอให้ ยกฟ้อง
ก่อน สืบพยาน จำเลย แถลงรับ ข้อเท็จจริง ตาม ฟ้อง และ รับ ว่าบัญชีทรัพย์ มรดก ท้ายฟ้อง ถูกต้อง โจทก์ ทั้ง สี่ แถลงรับ ว่า ที่ดินตาม บัญชีทรัพย์ มรดก ท้ายฟ้อง ลำดับ ที่ 1 ถึง 16 ศาล ได้ มี คำพิพากษาถึงที่สุด ให้ โอน ให้ แก่ โจทก์ ใน คดี หมายเลขแดง ที่ 9536/2523ของ ศาลชั้นต้น โจทก์ ทั้ง สี่ และ จำเลย ไม่ติดใจ สืบพยาน
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ให้ จำเลย แบ่ง ที่ดิน โฉนด เลขที่2464 ที่ดิน น.ส. 3 เลขที่ 196 ที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 190 และ 209ตำบล นาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัด ชลบุรี กับ ที่ดิน โฉนด เลขที่ 3947 ตำบล หนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัด ชลบุรี ให้ แก่ โจทก์ ที่ 1ครึ่ง หนึ่ง ส่วน ที่ เหลือ อีก ครึ่ง หนึ่ง แบ่ง ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ คน ละหนึ่ง ใน ห้า ส่วน หาก จำเลย ไม่ปฏิบัติ ตาม ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดงเจตนา ของ จำเลย
โจทก์ ที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ จำเลย แบ่ง ที่ดิน โฉนด เลขที่2464 ที่ดิน น.ส. 3 เลขที่ 196 ที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 190 และ 209ตำบล นาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัด ชลบุรี กับ ที่ดิน โฉนด เลขที่ 3947 ตำบล หนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัด ชลบุรี ให้ แก่ โจทก์ ที่ 1 สอง ใน สาม ส่วน ส่วน ที่ เหลือ อีก หนึ่ง ใน สาม แบ่ง ให้ แก่โจทก์ ทั้ง สี่ คน ละ หนึ่ง ใน ห้า ส่วน นอกจาก ที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ ที่ 1 ฎีกา
ระหว่าง พิจารณา โจทก์ ที่ 1 ถึงแก่กรรม นาง อัปสร กูรมะโรหิต ยื่น คำร้องขอ เข้า เป็น คู่ความ แทนที่ โจทก์ ที่ 1 ผู้มรณะ ศาลฎีกา อนุญาต
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ว่า โจทก์ ที่ 1 มีสิทธิเรียกร้อง ขอให้ จำเลย แบ่ง สินสมรส และ ทรัพย์มรดก ของ นาย สด ตาม บัญชีทรัพย์ ท้ายฟ้อง หมายเลข 8 ใน ส่วน ที่ ศาล มี คำพิพากษาถึงที่สุด ให้ จำเลย ใน ฐานะ ผู้จัดการมรดก ของ นาย สด โอน ขาย ให้ แก่ คุณหญิง พงา ตาม คดีแพ่ง หมายเลขแดง ที่ 9536/2523 ของ ศาลชั้นต้น ได้ หรือไม่ เห็นว่า คดี นี้ โจทก์ ที่ 1 ฟ้อง ว่า ทรัพย์ ตาม บัญชีทรัพย์มรดก ท้ายฟ้อง เป็น สินสมรส ระหว่าง โจทก์ ที่ 1 กับ นาย สด และ เป็น มรดก ของ นาย สด ขอให้ จำเลย ใน ฐานะ ผู้จัดการมรดก ของ นาย สด แบ่ง ทรัพย์สิน ดังกล่าว แก่ โจทก์ และ จำเลย แถลง ยอมรับ ข้อเท็จจริง ตาม ฟ้อง และ รับ ว่าบัญชีทรัพย์ มรดก ท้ายฟ้อง ถูกต้อง ดังนี้ ข้อเท็จจริง ย่อม รับฟัง ได้ตาม ฟ้อง แม้ จะ ปรากฏว่า จำเลย ได้ ทำ สัญญา ประนีประนอม ยอมความ โอนขาย ที่ดิน บาง แปลง ตาม บัญชีทรัพย์ มรดก ท้ายฟ้อง ให้ แก่ บุคคลอื่น และ ศาลได้ มี คำพิพากษา ตามยอม คดีถึงที่สุด ไป แล้ว ก็ ตาม คำพิพากษา ดังกล่าวก็ ไม่ผูกพัน โจทก์ ที่ 1 ซึ่ง เป็น เจ้าของ กรรมสิทธิ์รวม ใน ที่ดินดังกล่าว และ มิได้ เป็น คู่ความ ใน คดี นั้น ด้วย โจทก์ ที่ 1 ย่อม มีสิทธิฟ้อง ขอ แบ่ง ทรัพย์สิน ดังกล่าว ได้ ส่วน ปัญหา ว่า จะ แบ่ง กัน ได้ เพียงใดนั้น เป็น เรื่อง ที่ จะ ต้อง ไป ว่า กัน อีก ส่วน หนึ่ง ฎีกา โจทก์ ที่ 1ฟังขึ้น
พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ จำเลย แบ่ง ที่ดิน ตาม บัญชีทรัพย์ มรดกท้ายฟ้อง หมายเลข 8 ให้ แก่ โจทก์ ที่ 1 สอง ใน สาม ส่วน ส่วน ที่ เหลืออีก หนึ่ง ใน สาม ส่วน ให้ แบ่ง ให้ แก่ โจทก์ ที่ 1 อีก หนึ่ง ใน ห้า ส่วน นอกจากที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์

Share