แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้จำเลยในฐานะ ผู้จัดการมรดกของ ส. ได้ทำ สัญญาประนีประนอมยอมความโอนขาย ที่ดินทรัพย์ มรดกซึ่งเป็น สินสมรสระหว่างโจทก์ที่1กับ ส. ให้แก่บุคคลอื่นและศาลมี คำพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดไปแล้วคำพิพากษาดังกล่าวก็ไม่ผูกพันโจทก์ที่1ซึ่งมิได้เป็น คู่ความด้วยโจทก์ที่1ย่อมมีสิทธิฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินได้ส่วนปัญหาว่าจะแบ่งกันได้เพียงใดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง และ แก้ไข คำฟ้อง ว่า โจทก์ ที่ 1 เป็น ภริยา ที่ชอบ ด้วยกฎหมาย ของ นาย สด กูรมะโรหิต จดทะเบียนสมรส เมื่อ วันที่ 27 มกราคม 2478 ณ นครปักกิ่ง ประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อน สมรส โจทก์ ที่ 1 มี สินเดิม เป็น สังหาริมทรัพย์ และ อสังหาริมทรัพย์แต่ ฝ่ายเดียว มี บุตร ด้วยกัน 5 คน คือ โจทก์ ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 จำเลยและ นาย กุลภัทร กูรมะโรหิต มี ที่ดิน เป็น สินสมรส รวม 34 แปลง ตาม บัญชีทรัพย์ ท้ายฟ้อง หมายเลข 8 ต่อมา วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2521นาย สด ถึงแก่กรรม ศาล มี คำสั่ง ตั้ง จำเลย เป็น ผู้จัดการมรดก เมื่อ เดือน เมษายน 2521 นับแต่ ได้รับ การ แต่งตั้ง เป็น ผู้จัดการมรดกจำเลย เคย แบ่ง ทรัพย์มรดก เพียง ครั้งเดียว ให้ แก่ นาย กุลภัทร เมื่อ ประมาณ ปี 2526 เป็น เงิน จำนวน 10,000,000 บาท โดย นาย กุลภัทร ไม่ติดใจ เรียกร้อง ทรัพย์มรดก อื่น อีก และ ยัง ไม่เคย แบ่ง ทรัพย์มรดกให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ เลย โจทก์ ทั้ง สี่ ทวงถาม แล้ว จำเลย เพิกเฉยขอให้ บังคับ จำเลย แบ่ง สินสมรส ตาม บัญชีทรัพย์ ท้ายฟ้อง หมายเลข 8ออก เป็น สินสมรส ให้ แก่ โจทก์ ที่ 1 สอง ใน สาม ส่วน ส่วน ที่ เหลือหนึ่ง ใน สาม ส่วน ตกเป็น ทรัพย์มรดก ให้ จำเลย แบ่ง ออก เป็น ห้า ส่วนแบ่ง ให้ โจทก์ ทั้ง สี่ คน ละ ส่วน เท่า ๆ กัน หาก จำเลย ไม่ยอม ปฏิบัติให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย หาก การ แบ่ง ทรัพย์ไม่สามารถ กระทำ ได้ ให้ นำ ทรัพย์ ออก ประมูล ขาย ใน ระหว่าง ทายาท ด้วยกันหาก ยัง ขาย ไม่ได้ ให้ นำ ออก ขายทอดตลาด นำ เงิน ที่ ขาย ได้ มา แบ่ง ให้โจทก์ ทั้ง สี่ ตาม ส่วน
จำเลย ให้การ ว่า เหตุ ที่ ยัง มิได้ จัดการ แบ่ง ทรัพย์มรดก เพราะถูก คุณหญิง พงา ดุลยธรรมธาดาราชวรสภาบดี ฟ้อง ขอให้ จำเลย โอน ที่ดิน ของ นาย สด ซึ่ง ตั้ง อยู่ ที่ ตำบล นาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัด ชลบุรี จำนวน 39 แปลง รวม เนื้อที่ ประมาณ 3,000 ไร่โดย อ้างว่า นาย สด ได้ ทำ สัญญา ขาย ให้ ก่อน ถึงแก่กรรม และ คดี ยัง ไม่ แล้ว เสร็จ นอกจาก นี้ ที่ดิน มรดก ส่วน ใหญ่ เป็น ที่ดิน ที่ มี เพียงสิทธิ ครอบครอง ซึ่ง จำเลย กำลัง ดำเนินการ ขอ ออก โฉนด ที่ดิน อยู่จำเลย ไม่มี เจตนา ที่ จะ ไม่ แบ่ง ทรัพย์มรดก แต่อย่างใด ขอให้ ยกฟ้อง
ก่อน สืบพยาน จำเลย แถลงรับ ข้อเท็จจริง ตาม ฟ้อง และ รับ ว่าบัญชีทรัพย์ มรดก ท้ายฟ้อง ถูกต้อง โจทก์ ทั้ง สี่ แถลงรับ ว่า ที่ดินตาม บัญชีทรัพย์ มรดก ท้ายฟ้อง ลำดับ ที่ 1 ถึง 16 ศาล ได้ มี คำพิพากษาถึงที่สุด ให้ โอน ให้ แก่ โจทก์ ใน คดี หมายเลขแดง ที่ 9536/2523ของ ศาลชั้นต้น โจทก์ ทั้ง สี่ และ จำเลย ไม่ติดใจ สืบพยาน
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย แบ่ง ที่ดิน โฉนด เลขที่ 2464 ที่ดินน.ส. 3 เลขที่ 196 ที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 190 และ 209 ซึ่ง ตั้ง อยู่ตำบล จอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัด ชลบุรี กับ ที่ดิน โฉนด เลขที่ 3947ตำบล หนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัด ชลบุรี ให้ แก่ โจทก์ ที่ 1ครึ่ง หนึ่ง ส่วน ที่ เหลือ อีก ครึ่ง หนึ่ง แบ่ง ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ คน ละหนึ่ง ใน ห้า ส่วน หาก จำเลย ไม่ปฏิบัติ ตาม ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย หาก การ แบ่ง ทรัพย์ ดังกล่าว ไม่สามารถ กระทำ ได้ก็ ให้ นำ ทรัพย์ ออก ประมูล ขาย ใน ระหว่าง ทายาท ด้วยกัน หาก ยัง ไม่สามารถขาย ได้ ให้ นำ ออก ขายทอดตลาด นำ เงิน ที่ ขาย ได้ แบ่ง แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ ตาม ส่วน
โจทก์ ที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ จำเลย แบ่ง ที่ดิน โฉนดเลขที่ 2464 ที่ดิน น.ส. 3 เลขที่ 196 ที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 190และ 209 ตำบล นาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัด ชลบุรี กับ ที่ดิน โฉนด เลขที่ 3947 ตำบล หนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัด ชลบุรี ให้ แก่ โจทก์ ที่ 1 สอง ใน สาม ส่วน ส่วน ที่ เหลือ อีก หนึ่ง ใน สาม แบ่ง ให้ แก่โจทก์ ทั้ง สี่ คน ละ หนึ่ง ใน ห้า ส่วน นอกจาก ที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ ที่ 1 ฎีกา
ระหว่าง พิจารณา โจทก์ ที่ 1 ถึงแก่กรรม นาง อัปสร กูรมะโรหิต ยื่น คำร้องขอ เข้า เป็น คู่ความ แทนที่ โจทก์ ที่ 1 ผู้มรณะ ศาลฎีกา อนุญาต
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ โจทก์ ที่ 1ว่า โจทก์ ที่ 1 มีสิทธิ เรียกร้อง ขอให้ จำเลย แบ่ง สินสมรส และ ทรัพย์มรดกของ นาย สด ตาม บัญชีทรัพย์ ท้ายฟ้อง หมายเลข 8 ใน ส่วน ที่ ศาล มี คำพิพากษา ถึงที่สุด ให้ จำเลย ใน ฐานะ ผู้จัดการมรดก ของ นาย สด โอน ขาย ให้ แก่ คุณหญิง พงา ตาม คดีแพ่ง หมายเลขแดง ที่ 9536/2523 ของ ศาลชั้นต้น ได้ หรือไม่ เห็นว่า คดี นี้ โจทก์ ที่ 1 ฟ้อง ว่า ทรัพย์ ตาม บัญชีทรัพย์มรดก ท้ายฟ้อง เป็น สินสมรส ระหว่าง โจทก์ ที่ 1 กับ นาย สด และ เป็น มรดก ของ นาย สด ขอให้ จำเลย ใน ฐานะ ผู้จัดการมรดก ของ นาย สด แบ่ง ทรัพย์สิน ดังกล่าว แก่ โจทก์ และ จำเลย แถลง ยอมรับ ข้อเท็จจริงตาม ฟ้อง และ รับ ว่า บัญชีทรัพย์ มรดก ท้ายฟ้อง ถูกต้อง ดังนี้ ข้อเท็จจริงย่อม รับฟัง ได้ ตาม ฟ้อง แม้ จะ ปรากฏว่า จำเลย ได้ ทำ สัญญา ประนีประนอมยอมความ โอน ขาย ที่ดิน บาง แปลง ตาม บัญชีทรัพย์ มรดก ท้ายฟ้อง ให้ แก่บุคคลอื่น และ ศาล ได้ มี คำพิพากษา ตามยอม คดี ที่สุด ไป แล้ว ก็ ตามคำพิพากษา ดังกล่าว ก็ ไม่ผูกพัน โจทก์ ที่ 1 ซึ่ง เป็น เจ้าของกรรมสิทธิ์รวม ใน ที่ดิน ดังกล่าว และ มิได้ เป็น คู่ความ ใน คดี นั้น ด้วยโจทก์ ที่ 1 ย่อม มีสิทธิ ฟ้อง ขอ แบ่ง ทรัพย์สิน ดังกล่าว ได้ ส่วน ปัญหาว่า จะ แบ่ง กัน ได้ เพียงใด นั้น เป็น เรื่อง ที่ จะ ต้อง ไป ว่า กัน อีก ส่วน หนึ่งคำพิพากษา ศาลล่าง ทั้ง สอง ไม่ต้อง ด้วย ความเห็น ของ ศาลฎีกาฎีกา โจทก์ ที่ 1 ฟังขึ้น คดี ไม่จำต้อง วินิจฉัย ฎีกา ข้อ อื่น ของโจทก์ ที่ 1 อีก ต่อไป ”
พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ จำเลย แบ่ง ที่ดิน ตาม บัญชีทรัพย์ มรดกท้ายฟ้อง หมายเลข 8 ให้ แก่ โจทก์ ที่ 1 สอง ใน สาม ส่วน ส่วน ที่ เหลืออีก หนึ่ง ใน สาม ส่วน ให้ แบ่ง ให้ แก่ โจทก์ ที่ 1 อีก หนึ่ง ใน ห้า ส่วนนอกจาก ที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์