แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดิน ชื่อในโฉนด หุ้นส่วน น่าที่ ๆ ผู้จัดการควรทำ ตัวแทน ควรมอบหมายทรัพย์ สินที่ตนได้มาแก่ตัวการ
ย่อยาว
ได้ความว่า โจทย์จำเลยเข้าหุ้นส่วนสร้างโรงสีไฟ คณะหุ้นส่วนได้ตั้งให้จำเลยเปนผู้จัดการ ครั้นถึงเวลาจะซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงสี คณะหุ้นส่วนได้ช่วยกันออกเงินให้จำเลยไปจัดการซื้อ แลเพื่อความสดวก พวกหุ้นส่วนจึงยอมให้จำเลยใส่ชื่อในโฉนดแต่ผู้เดียว ต่อมาศาลจังหวัดสมุทสงครามได้มีคำสั่งบังคับให้ฝ่ายโจทย์รับซื้อหุ้นของจำเลยไปหมดแล้ว โจทย์จึงฟ้องขอให้จำเลยคืนที่ดินโฉนดที่ ๑๐๙๗ กับหนังสือซื้อขายที่ดินรายนี้อันเปนทรัพย์สินของหุ้นส่วนนั้นให้แก่โจทย์ ฯ
ฎีกาวินิจฉัยว่า โจทย์จำเลยเปนหุ้นส่วนกัน แลคณะหุ้นส่วนได้มอบกิจการทั้งหลายรวมทั้งการซื้อที่ดินรายพิภาษนี้ให้จำเลยจัดการแล้ว จำเลยย่อมตกอยู่ในฐานเปนตัวแทนของหุ้นส่วน(ดู พ.ร.บ.หุ้นส่วนบริษัท ร.ศ. ๑๓๐ มาตรา ๓๔) เพราะฉนั้นทรัพย์สินอันใดที่จำเลยได้มาเพื่อประโยชน์แก่หุ้นส่วนแล้ว ตามหลักกฎหมายในเรื่องตัวแทน จำเลยจะเกียดกันเอาทรัพย์นั้นไว้เปนประโยชน์ของตนเองไม่ได้ น่าที่ตัวแทนจะต้องมอบทรัพย์สินที่ได้มาในฐานเปนตัวแทนนั้นให้แก่ตัวการ อีกประการหนึ่ง จำเลยเปนผู้จัดการของหุ้นส่วน เมื่อได้รับมอบหมายจากหุ้นส่วนให้ไปซื้อที่ดินเพื่อตั้งโรงสี ควรจะใส่ชื่อของตนในฐานเปนผู้จัดการ แต่จำเลยก็หาทำเช่นนั้นไม่จำเลยกระทำผิดน่าที่ผู้จัดการ เพราะฉนั้นจำเลยย่อมไม่สามารถถือเอาซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่ความผิดของตนเองได้ ฯ
ส่วนคำพิพากษาฎีกาที่ ๔๔๓/๒๔๖๓ ซึ่งศาลเดิมยกขึ้นนั้น หาตรงต่อรูปคดีนี้ไม่ เพราะในคดีนี้เปนเรื่องพิภาษกันระวางโจทย์จำเลยผู้เปนหุ้นส่วนซึ่งเปนตัวการกับตัวแทนแห่งกันแลกัน แลไม่เกี่ยวกับคนภายนอกประการใด จึงพิพากษาให้จำเลยคืนที่ดินให้แก่โจทย์ ฯ