แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
กฎหมายบัญญัติให้ศาลใช้ดุลพินิขอนุญาตให้โจทก์ยื่นคำฟ้องจำเลยต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลนั้นได้ต่อเมื่อการพิจารณาคดีในศาลนั้นจะเป็นการสะดวกเป็นข้อสำคัญหาใช่พิจารณาการเดินทางของจำเลยว่าไกลหรือใกล้เป็นข้อสำคัญไม่.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ และยื่นคำร้องพร้อมกับคำฟ้องขออนุญาตฟ้องจำเลยต่อศาลที่มูลคดีเกิด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยเ่ดินทางไกลอาจเสียเปรียบให้โจทก์ฟ้องยังภูมิลำเนาของจำเลย ไม่อนุญาตให้ฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 4(2) บัญญัติว่า “คำฟ้องอื่น ๆ นอกจานี้ให้เสนอต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล แต่ถ้าโจทก์มีความประสงค์ที่จะยื่นคำฟ้องต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลนั้น หรือในคดีที่ไม่มีข้อพิพาทถ้าโจทก์มีความประสงค์ที่จะยื่นคำฟ้องต่อศาลที่โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลนั้น เมื่อโจทก์ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องแสดงให้เห็นว่าการพิจารณาคดีในศาลนั้น ๆ จะเป็นการสะดวก ศาลจะใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ยื่นคำฟ้องตามที่ขอนั้นก็ได้” ตามบทบัญญัติของกฎหมายนี้จะเห็นว่ากฎหมายบัญญัติอนุญาตให้โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลนั้นได้ ต่อเมื่อการพิจารณาคดีในศาลนั้น ๆ จะเป็นการสะดวกเป็นข้อสำคัญ หาใช่พิจารณาการเดินทางของจำเลยไกลหรือใกล้อันจะเป็นความสะดวกแก่การต่อสู้คดีของจำเลยหรือไม่เป็นข้อสำคัญ สำหรับคดีนี้ตามคำร้องขอยื่นคำฟ้องของโจทก์มีข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่ามูลคดีและพยานหลักฐานอยู่ในเขตอำนาจของศาลชั้นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้การพิจารณาในศาลนี้ก็จะเป็นการสะดวกเพราะถ้าให้โจทก์ฟ้องจำเลยยังศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาแล้ว อาจจะต้องส่งประเด็นมาพิจารณาที่ศาลที่มีมูลคดีและพยานหลักฐานอยู่ในเขตศาลเช่นเดียวกัน ดังนั้นคำร้องของโจทก์จึงมีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้ฟ้องจำเลยในเขตศาลนี้ได้ ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นรับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ศาลชั้นต้นพิจารณารวมสั่งในคำพิพากษา”.