แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้รอฟังคำสั่งของศาลฎีกาเกี่ยวกับคำขอทุเลาการบังคับไว้นั้น มีความหมายว่าให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นไว้ชั่วคราวก่อนจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอทุเลาการบังคับชั้นฎีกาของจำเลย ซึ่ง รวมถึงการรอการออกหมายเรียกเพื่อจับกุมและกักขังจำเลยด้วย ศาลชั้นต้น มีอำนาจมีคำสั่งเช่นนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(2)
ย่อยาว
ชั้นบังคับคดี โจทก์ยื่นคำร้องว่า ครบกำหนดระยะเวลาตามคำบังคับแล้วขอให้ศาลสั่งจับกุมและกักขังจำเลยที่จงใจขัดขืนคำบังคับ ขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยมาสอบถาม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยฎีกาและขอทุเลาการบังคับไว้ ให้รอฟังคำสั่งศาลฎีกาเกี่ยวกับคำขอทุเลาการบังคับของจำเลยก่อน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “โจทก์ฎีกาว่าจำเลยขอทุเลาการบังคับเฉพาะหนี้เงินเท่านั้น มิได้ขอทุเลาการบังคับในข้อที่ศาลพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากห้องพิพาท คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้รอการบังคับคดีไว้ทั้งหมด จึงเป็นการไม่ชอบ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำขอทุเลาการบังคับของจำเลยเป็นการขอทุเลาการบังคับตามที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาทั้งหมด มิได้ขอทุเลาการบังคับเฉพาะหนี้เงินดังที่โจทก์ฎีกาและคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้รอฟังคำสั่งของศาลฎีกาเกี่ยวกับคำขอทุเลาการบังคับไว้นั้น มีความหมายว่าให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นไว้ชั่วคราวก่อนจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอทุเลาการบังคับชั้นฎีกาของจำเลย ซึ่งรวมถึงการรอออกหมายเรียกเพื่อการจับกุมและกักขังจำเลยด้วย ศาลชั้นต้นมีอำนาจมีคำสั่งเช่นนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(2) คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ