แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติการค้าข้าว ฯ มาตรา 21 ทวิ ได้บัญญัติให้ริบเฉพาะข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดกับสิ่งของที่บรรจุเท่านั้น รถยนต์เป็นเพียงยานพาหนะที่ใช้ขนย้ายข้าวไม่ใช่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการกระทำผิดโดยตรงอันจะพึงริบได้ตามพระราชบัญญัตินี้ และจะนำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 มาใช้บังคับหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า คณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวพุทธศักราช ๒๔๘๙ ได้ออกประกาศฉบับที่ ๑๑๗ พ.ศ. ๒๕๒๓ กำหนดให้เขตท้องที่จังหวัดทุกจังหวัดเป็นเขตควบคุมการค้าข้าวตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๒๓ เป็นต้นมา และได้ออกประกาศฉบับที่ ๑๒๐ พ.ศ. ๒๕๒๔ ห้ามบุคคลใดทำการขนย้ายข้าวโอชาจำนวนตั้งแต่ ๑๕๐ กิโลกรัม ขึ้นไปจากสถานที่เก็บข้าวไปยังสถานที่อื่นโดยให้ใช้บังคับในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๒๕ เป็นต้นมา ซึ่งจำเลยทั้งสองได้ทราบประกาศดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๒๔ จำเลยที่ ๒ เจ้าของร้านเฮงฮวดพัฒนาซึ่งเป็นผู้ดำเนินการแทนอำเภอบางคนทีในการรับข้าว ไปจำหน่ายแก่ประชาชน และจำเลยที่ ๑ เจ้าของรถยนต์คันหมายเลขทะเบียนสมุทรสงคราม ๘๐-๐๐๖๐ ได้บังอาจร่วมกันทำการขนย้ายข้าวโอชาโดยจำเลยที่ ๒ ใช้ให้จำเลยที่ ๑ นำรถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกข้าวโอชาบรรจุกระสอบจำนวน ๑๔ กระสอบ น้ำหนัก ๑,๓๓๐ กิโลกรัม จากร้านค้าของจำเลยที่ ๒ อันเป็นสถานที่เก็บข้าวไปยังสถานที่อื่นโดยฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการดังกล่าวโดยไม่ได้รับการยกเว้นใด ๆ ให้กระทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานจับจำเลยที่ ๑ ได้ระหว่างทางที่ขนย้ายพร้อมด้วยข้าวโอชาและรถยนต์บรรทุกที่ใช้เป็นพาหนะขนย้ายเป็นของกลางขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๗, ๘, ๑๗, ๒๑ ทวิ พระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๔, ๑๐, ๑๒ ประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ (ฉบับที่ ๑๑๗) พ.ศ. ๒๕๒๓ เรื่องกำหนดเขตควบคุมการค้าข้าว (ฉบับที่ ๑๒๐) พ.ศ. ๒๕๒๔ เรื่องห้ามขนย้ายข้าวโอชาจากสถานที่เก็บข้าว ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ และขอให้ริบข้าวโอชา กระสอบบรรจุข้าว และรถยนต์ของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองผิดตามฟ้องให้จำคุกคนละ ๔ เดือนปรับคนละ ๓,๐๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกคนละ ๒ เดือน ปรับคนละ๑,๕๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด ๒ ปี ข้าวและกระสอบข้าวให้ริบส่วนคำขอให้ริบรถยนต์ด้วยนั้นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำคุกคนละ ๒ ปี ปรับคนละ ๔,๐๐๐ บาทลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกคนละ ๑ ปี ปรับคนละ ๒,๐๐๐ บาทโทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด ๒ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ริบรถยนต์ของกลาง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช ๒๔๘๙ มาตรา ๒๑ ทวิ ได้บัญญัติให้ริบเฉพาะข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดกับสิ่งที่บรรจุเท่านั้นมิได้บัญญัติที่ให้ริบยานพาหนะที่ใช้ขนย้ายข้าวด้วยแต่อย่างใด และจะนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ มาใช้บังคับหาได้ไม่ เพราะรถยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะไม่ใช่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการกระทำผิดโดยตรง และพระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช ๒๔๘๙ ได้บัญญัติถึงการริบทรัพย์ไว้เป็นอย่างอื่นแล้ว ที่ศาลล่างทั้งสองไม่ริบรถยนต์ของกลาง จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
พิพากษายืน