คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3054/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ห้างโจทก์มิใช่เป็นเจ้าของรถยนต์คันที่โจทก์ได้เอาประกันภัยไว้แก่จำเลยและห้างโจทก์ไม่ได้เป็นผู้ใช้รถหรือรับประโยชน์จากการใช้รถคันนี้เลย รถยนต์ดังกล่าว ส.เป็นผู้เช่าซื้อและได้นำมาเข้าร่วมกับห้างโจทก์เพื่อขอจดทะเบียนวิ่งในนามของห้างโจทก์ ส่วนรายได้ในการบรรทุกก็ดีหรือเมื่อรถเกิดเสียหายก็ดี ส.เป็นผู้รับผิดชอบ เหตุที่โจทก์เอาประกันภัยก็เพียงเพื่อช่วยให้ ส. ได้ใช้รถในนามของโจทก์ซึ่งทำการขอส่งอยู่แล้ว เพื่อส่งเสริมให้บริษัทขายรถบรรทุกแห่งหนึ่งขายรถได้ดีขึ้นเท่านั้น โจทก์จึงมิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยสัญญาประกันภัยย่อมไม่ผูกพันคู่สัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 863 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาเป็นผู้เอาประกันภัยรถยนต์บรรทุก ซึ่งสิบตำรวจโทสุพลเช่าซื้อจากห้างหุ้นส่วนจำกัดลำปางศิริชัยไว้กับจำเลย โดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ต่อมาในระหว่างอายุสัญญาประกันภัยรถยนต์ดังกล่าวได้ถูกคนร้ายลักไป ซึ่งจำเลยจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัย แต่จำเลยไม่ยอมชดใช้ให้ จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวและไม่ได้รับความเสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้อง หนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องเป็นเอกสารปลอม รถยนต์ดังกล่าวถูกนำไปใช้ผิดเงื่อนไขตามสัญญาประกันภัย คดีขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์มีส่วนได้เสียในทรัพย์ที่เอาประกันภัยและได้ทำสัญญาประกันภัยไว้กับจำเลย โจทก์ไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย คดีไม่ขาดอายุความพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์มิได้มีส่วนได้เสียในรถยนต์คันที่เอาประกันภัยสัญญาประกันภัยจึงไม่ผูกพันจำเลย พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ได้ความตามคำเบิกความของนายชูลิตหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างโจทก์ว่า การที่สิบตำรวจโทสุพลนำรถยนต์คันที่เอาประกันภัยมาเข้าร่วมก็เพื่อขอจดทะเบียนเข้ามาวิ่งในนามของห้างโจทก์เท่านั้น ส่วนรายได้ในการบรรทุกของทั้งหมดนั้นสิบตำรวจโทสุพลเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด ห้างโจทก์ไม่มีส่วนได้ประโยชน์อย่างใดจากสิบตำรวจโทสุพลเลย และเบิกความอีกตอนหนึ่งว่า การที่ห้างโจทก์รับเอารถของสิบตำรวจโทสุพลมาจดทะเบียนก็เนื่องจากห้างหุ้นสวนจำกัดลำปางศิริชัย มีบิดาของนายชูลิตเป็นผู้จัดการทำให้ห้างนั้นขายรถยนต์ได้ดีขึ้น เมื่อรถยนต์เสียหายขึ้นสิบตำรวจโทสะพลจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมเอง ก่อนรถถูกลักสิบตำรวจโทสุพลจะใช้รถคันนี้รับจ้างอย่างไรโจทก์ไม่ทราบจากคำเบิกความของผู้แทนโจทก์ดังกล่าว เห็นได้ว่าห้างโจทก์มิใช่เจ้าของรถยนต์คันที่เอาประกันภัยและไม่ได้เป็นผู้ใช้รถหรือรับประโยชน์จากการใช้รถคันนี้เลย เมื่อรถเกิดเสียหายสิบตำรวจโทสุพลก็เป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งสิ้น เหตุที่โจทก์เอาประกันภัยก็เพียงเพื่อช่วยให้สิบตำรวจโทสุพลได้ใช้รถในนามของโจทก์ซึ่งทำการขนส่งอยู่แล้ว เพื่อส่งเสริมให้บริษัทขายรถบรรทุกของบิดานายชูลิตผู้จัดการห้างโจทก์ขายรถได้ดีขึ้นเท่านั้น คดีฟังได้ชัดเจนว่าโจทก์มิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัย เมื่อผู้แทนโจทก์เบิกความยืนยันฟังได้ว่าโจทก์ผู้เอาประกันภัยมิได้มีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันไว้นั้น สัญญาประกันภัยย่อมไม่ผูกพันคู่สัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๖๓ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์
พิพากษายืน

Share