แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงินบำนาญประจำเดือนมีนาคม 2475 ซึ่งได้รับในเดือนเมษายน 2476 นั้นไม่ต้องเสียภาษีเงินเดือน
การตีความในกฎหมายเรื่องความรับผิดในค่าภาษีอากรจะต้องทำโดยเคร่งครัดเช่นเดียวกันกฎหมายอาญา
คดีที่คนในบังคับอังกฤษเป็นคู่ความ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
ย่อยาว
คดีได้ความว่าโจทก์เป็นข้าราชการบำนาญได้รับเงินบำนาญเดือนละ ๕๒๕ บาท อัตราภาษีเงินเดือนที่โจทก์จะต้องเสียเดือนละ ๑๔ บาท ๕ สตางค์ เริ่มจำนวนเดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๗๕ ซึ่งรับในวันต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ถึงจำนวนเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งรับในวันต้นเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๔๗๕ รวม ๑๑ ครั้งเป็นเงิน ๑๕๔ บาท ๕๕ สตางค์ เงินบำนาญของโจทก์จำนวนเดิอนมีนาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ซึ่งรับในวันต้นเดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๗๖ ถูกหักเป็นค่าภาษีไว้ ๑๔ บาท ๕ สตางค์ เงินบำนาญของโจทก์จำนวนเดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๗๖ ซึ่งรับในวันต้นเดือนพฤษภาคมถูกหักเป็นค่าภาษีเงินได้ไว้ ๑๔ บาท และหักทุกเดือนตลอดมาถึงจำนวนเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๖ ซึ่งรับในวันต้นเดือนมีนาคมพ.ศ.๒๔๗๖ รวม ๑๑ ครั้ง เป็นเงิน ๑๕๔ บาท ต่อมาโจทก์ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก ๑๔ บาท และโจทก์ได้ชำระแล้ว จึงมาฟ้องขอคืน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ภาษีเงินเดือนเริ่มใช้แต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๕ แลเลิกใช้เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๖ และใช้พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ย่อมชี้ความประสงค์เลิกภาษีเงินเดือนเพื่อใช้ภาษีเงินได้แทน การที่บำนาญของโจทก์จำนวนเดือนมีนาคมพ.ศ.๒๔๗๕ ซึ่งรับในวันต้นเดือนมีนาคมถูกหักเป็นค่าภาษีเงินเดือนนั้นไม่ชอบ เพราะเดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๗๖ ภาษีเงินเดือนได้เลิกใช้แล้ว สมควรจะเก็บภาษีเงินได้อย่างเดียว กฎหมายย่อมไม่ประสงค์จะเก็บภาษี ๒ ซ้อน จึงพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาตัดสินว่า
๑.ข้อเถียงของจำเลยที่ว่าศาลล่างวินิจฉัยคดีนอกประเด็นโดยไม่พิจารณาถึงเรื่องภาษีเงินเดือนด้วยนั้น เห็นว่าจริงอยู่โจทก์จำเลยโต้เถียงกันด้วยเรื่องภาษีเงินได้ ว่าจำเลยเก็บเกินหรือไม่ แต่ความปรากฎในรายงานพิจารณาว่าจำเลยเก็บภาษีจากเงินบำนาญของโจทก์จำนวนเดือนมีนาคม ๒๔๗๕ ไว้เมื่อจ่ายบำนาญในเดือนเมษายน ๒๔๗๖ แล้วหักผลักเป็นภาษีเงินเดือน แล้วเรียกเก็บภาษีเงินได้อีกโดยโจทก์ถือว่าเก็บภาษีไม่เต็มปีคือขาดไป ๑ เดือน ในการพิจารณาว่าโจทก์ได้เสียภาษีเต็มปีหรือไม่ ศาลจะต้องพิจารณาว่าจำเลยหักเงินรายนี้เป็นค่าภาษีเงินเดือนได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นคำวินิจฉัยของศาลล่างจึงไม่เป็นเรื่องนอกประเด็น
๒.จำเลยเถียงมาในฎีกาอีกข้อหนึ่งว่าจำเลยมิได้เก็บภาษีซ้อนกันแต่ประการใดเลยในข้อนี้ศาลล่างวินิจฉัยมาว่า จำเลยเรียกเก็บภาษีซ้อนกัน เมื่อเป็นเช่นนี้จำเลยหามีสิทธิจะฎีกาไม่ เพราะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
๓.ข้อกฎหมายในเรื่องเก็บภาษีนั้นเห็นว่าพ.ร.บ.ภาษ๊เงินเดือนได้ถูกยกเลิกแล้วแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๖ เงินบำนาญจำนวนเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ของโจทก์นั้นได้รับในเดือนเมษายน ๒๔๗๖ ซึ่งเป็นวันที่ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องเสียภาษีเงินเดือนเลย ฝ่ายจำเลยหักเงินค่าภาษีจากเงินบำนาญของโจทก์แล้วกลับผลักเป็นค่าภาษีเงินเดือนเสียแล้วเรียกเก็บค่าภาษีเงินได้อีกขึ้นหนึ่งเป็นการเก็บภาษีซ้อนและซ้ำกัน เป็นการมิชอบ การตีความบทบัญญัติในเรื่อง+ภาษีอากรต้องตีความอย่างเคร่งครัดทำนองเดียวกับกฎหมายอาญา จึงพิพากษายืน