แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระภิกษุถึงแก่มรณภาพโดยไม่มีพินัยกรรม์ ก่อนที่มฤดกจะตกเป็นของวัดจะต้องใช้หนี้แก่เจ้าหนี้ของผู้มรณภาพเสียให้สิ้นเชิงก่อน เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิจะเรียกร้องชำระหนี้จากผู้ถือทรัพย์ของผู้ตายซึ่งมิใช่ทายาทผู้ตายเกินกว่าจำนวนเงินราคาทรัพย์ที่ผู้นั้นยึดถือไว้ ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.161 +ไม่เต็มคำขอ
ย่อยาว
ได้ความว่า จ.จำเลยเป็นตัวแทนพระภิกษุกลิ่นไปกู้เงินโจทก์มา ๑๖๐๐ บาทการตั้งตัวแทนรายนี้มิได้ทำเป็นหนังสือต่อมาพระภิกษุกลิ่นมรณภาพ มีเงินมฤดกตกอยู่ที่ ก. จำเลย ๑๕๐๐ บาท โจกท์จึงฟ้องจำเลยทั้ง ๒ ขอให้ชำระเงิน
ศาลล่างทั้ง ๒ พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
ก.จำเลยผู้เดียวฎีกาว่า จำเลยมิได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์ เงิน ๑๕๐๐ บาทที่อยู่ในมือจำเลยเป็นเงินของสงฆ์โจทก์จะเรียกร้องเอาไม่ได้ และจำเลยมิใช่ทายาทของพระภิกษุกลิ่นหรือเจ้าอาวาศวัดห้วยพลู
ศาลฎีกาตัดสิน โจทก์มิได้ฟ้องจำเลยในฐานเป็นคู่สัญญารหรือทายาทของพระภิกษุกลิ่นหรือเจ้าอาวาศวัดห้วยพลู แต่เพราะจำเลยถือเงินอันเป็นมฤดกของพระภิกษุกลิ่นไว้ตามกฎหมายมฤดกบทที่ ๓๖ มฤดกจะตกเป็นของสงฆ์แต่เมื่อได้ชำระหนี้สืนของผู้มรณภาพเสียก่อนเจ้าหนี้จึงฟ้องเรียกได้และเมื่อจำเลยเป็นผู้รักษาเงินของพระภิกษุกลิ่นไว้ ๑๕๐๐ บาท ก็ต้องรับผิดส่งเงินจำนวนนี้ให้แก่โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ ๆ ไม่มีอำนาจจะเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ได้เกินจำนวนเงินที่อยู่ในมือจำเลยเพราะจำเลยไม่ได้เป็นทายาทของพระภิกษุกลิ่นจึงพิพากษาให้ ก.จำเลยส่งเงิน ๑๕๐๐ บาทให้โจทก์ โจทก์ชนะคดีไม่เต็มตามฟ้อง จึงให้ ก.จำเลยใช้ค่าธรรมเนียมแทนโจทก์ครึ่งหนึ่ง