แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยที่ 1 รวมพร้อมกัน 7 แปลง จำเลยที่ 1 ร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ขายที่ดินของจำเลยที่ 1 แยกทีละแปลง โดยอ้างว่าเจ้าพนักงานประเมินราคาที่ดินแปลงหนึ่งไว้ในราคาตารางวาละ 2,000 บาท ราคาที่ดินทั้งแปลงมีจำนวนถึง 1,160,000 บาท แต่หนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยมีเพียง 421,000 บาท หากขายที่ดินแปลงดังกล่าวแปลงเดียวก็เพียงพอที่จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว ดังนี้ หากความจริงเป็นดังที่จำเลยที่ 1 กล่าวอ้าง ก็มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลอาจพิจารณาอนุญาตให้ขายที่ดินของจำเลยที่ 1 ทีละแปลงดังที่จำเลยที่ 1 ร้องขอได้ศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนคำร้อง ของ จำเลยที่ 1 เสียก่อนที่จะพิจารณาสั่งคำร้อง.
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยที่ 1 รวมพร้อมกัน 7 แปลง จำเลยที่ 1ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ขายที่ดินดังกล่าวแยกจากกันทีละแปลง เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 มาดำเนินการร้องต่อศาล ซึ่งจำเลยที่ 1เห็นว่า การขายที่ดินแปลงโฉนดเลขที่ 33868 ก็จะได้เงินพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว หากขายรวมพร้อมกันทุกแปลง จะทำให้จำเลยที่ 1เสียหาย ขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งให้ขายที่ดินของจำเลยที่ 1แยกทีละแปลง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการชั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีก่อนให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำร้องของจำเลยที่ 1 นั้น จำเลยที่ 1ให้เหตุผลว่า เจ้าพนักงานประเมินราคาที่ดินโฉนดเลขที่ 33868แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ของจำเลยที่ 1 ไว้ในราคาตารางวาละ 2,000 บาท ราคาที่ดินทั้งแปลงมีจำนวนถึง1,160,000 บาท แต่หนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยมีเพียง 421,000 บาทหากขายที่ดินแปลงนี้แปลงเดียวก็เพียงพอที่จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว การขายที่ดินของจำเลยที่ 1 อีก 6 โฉนด พร้อมกับที่ดินแปลงดังกล่าวจะทำให้จำเลยที่ 1 เสียหาย ศาลฎีกาเห็นว่า หากความจริงเป็นดังที่จำเลยที่ 1 กล่าวอ้างในคำร้อง ก็มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลอาจพิจารณาอนุญาตให้ขายที่ดินของจำเลยที่ 1 ทีละแปลงดังที่จำเลยที่ 1 ร้องขอได้ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 1 เสียก่อนที่จะพิจารณาสั่งคำร้อง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
พิพากษายืน.