แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การออกเช็คเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนเงินและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ดังนั้น การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับ แม้จะลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินวันเดียวกัน ก็เป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็ค ๓ ฉบับ ให้แก่ผู้เสียหายเพื่อเป็นการชำระหนี้ค่าซื้อพลอย เช็คทั้งสามฉบับลงวันที่สั่งจ่าย ๒๖ มิถุนายน ๒๕๑๖ ผู้เสียหายนำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีธนาคารเพื่อให้เรียกเก็บเงินในวันนั้น ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้งสามฉบับโดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยวางโทษจำคุกจำเลยตามเช็คแต่ละฉบับ รวม ๑ ปี ๘ เดือน จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลย ๑๐ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ให้จำคุกจำเลย ๑ ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลย ๖ เดือน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการที่จำเลยออกเช็คคราวเดียวกันสามฉบับ ลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันผู้เสียหายนำเช็คทั้งสามฉบับไปขึ้นเงินไม่ได้เห็นว่าการออกเช็คเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนเงินและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังฟ้อง จึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๑
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้เรียงกระทงลงโทษจำเลย