คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3090/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีจะเป็นความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(2) นั้น ต้องเป็นกรณีฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกำลังกระทำการตามหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้ตายมีหน้าที่เป็นสิบเวร และกำลังดูโทรทัศน์อยู่ในเต็นท์พักผ่อนขณะจำเลยกับพวกเข้ามาทำร้ายและฆ่า ผู้ตายมิได้กำลังกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดตามหน้าที่ ไม่เป็นการฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกซึ่งเป็นอาสาสมัครทหารพรานร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงสิบเอกวุฒิชัยซึ่งเป็นทหารและกำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นสิบเวร เป็นเหตุให้สิบเอกวุฒิชัยถึงแก่ความตาย อันเป็นการฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และกระสุนปืนยังพลาดไปถูกนายเรียงพวกของจำเลยถึงแก่ความตายด้วย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33,60, 83, 288, 289(2)(4)

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 60, 83 จำคุกตลอดชีวิต ริบปลอกกระสุนปืนและคืนอาวุธปืน กระสุนปืนฯ แก่เจ้าของ

โจทก์ จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 60, 289, 83 ลงโทษตามมาตรา 289 ซึ่งเป็นบทหนัก ให้ประหารชีวิต

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีจะเป็นความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(2) นั้น ต้องเป็นกรณีฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกำลังกระทำการตามหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ข้อเท็จจริงคดีนี้ได้ความเพียงว่าสิบเอกวุฒิชัยมีหน้าที่เป็นสิบเวร และกำลังดูโทรทัศน์อยู่ในเต้นท์พักผ่อน ขณะจำเลยกับพวกเข้ามาทำร้ายและฆ่าในที่สุด สิบเอกวุฒิชัยมิได้กำลังกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดตามหน้าที่ ทั้งนี้เนื่องมาจากพวกของจำเลยมีสาเหตุกับสิบเอกวุฒิชัยมาก่อน จึงไม่เป็นการฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(2) ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share