คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3084-3086/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดว่านายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างหรือผู้ใดกระทำการใด ๆ เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 121 ถึงมาตรา 123 และการใช้อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ตามมาตรา 41 พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ มิได้บัญญัติว่าถึงที่สุดผู้ถูกกล่าวหาอาจฟ้องต่อศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้ รวมทั้งการใช้อำนาจหน้าที่ตามมาตรา 41 หากคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ใช้อำนาจหน้าที่ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมประการใด ศาลย่อมมีอำนาจที่จะแก้ไขให้ถูกต้องและเหมาะสมได้ เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์เลิกจ้างจำเลยเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามความเห็นของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีคำสั่งให้โจทก์รับจำเลยกลับเข้าทำงานศาลย่อมมีอำนาจกำหนดให้โจทก์จ่ายค่าเสียหายแทนการรับจำเลยกลับเข้าทำงานได้

ย่อยาว

คดีสามสำนวนนี้ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยเรียกโจทก์สำนวนแรกจำเลยสำนวนที่ ๒ และจำเลยสำนวนที่ ๓ ว่าโจทก์ เรียกจำเลยสำนวนแรกว่าจำเลยที่ ๑ ถึงจำเลยที่ ๑๓ ตามลำดับ เรียกโจทก์สำนวนที่ ๒ ว่า จำเลยที่ ๑๔ ถึงจำเลยที่ ๒๖ ตามลำดับ และเรียกโจทก์สำนวนที่ ๓ ว่า จำเลยที่ ๒๗ และจำเลยที่ ๒๘ ตามลำดับ
โจทก์สำนวนแรกฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดประกอบกิจการประเภทโรงแรม จำเลยที่ ๑ ถึงจำเลยที่ ๑๓ เป็นคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ระหว่างวันที่ ๔ – ๑๒ ธันวาคม ๒๕๒๓ ลูกจ้างโจทก์จำนวน ๑๕ คนซึ่งทำงานอยู่ในแผนกอาหาร ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ว่าโจทก์เลิกจ้างเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม ขอให้รับลูกจ้างกลับเข้าทำงานและจ่ายค่าเสียหาย จำเลยได้วินิจฉัยชี้ขาดว่า ลูกจ้างทั้ง ๑๕ คนเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องและอยู่ในระหว่างข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างยังมีผลใช้บังคับ ลูกจ้างมิได้กระทำผิดอนุมาตราใดอนุมาตราหนึ่งในมาตรา ๑๒๓ แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ โจทก์เลิกจ้างลูกจ้างทั้ง ๑๕ คน เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม มีคำสั่งให้โจทก์รับลูกจ้างทั้ง ๑๕ คนกลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดิมเหมือนไม่มีการเลิกจ้าง โจทก์เห็นว่าคำสั่งจำเลยไม่ถูกต้องเพราะโจทก์ประกอบกิจการแผนกอาหารไม่ได้รับผลสำเร็จ ขาดทุนตลอดมาโจทก์จึงเลิกแผนกอาหาร จึงจำเป็นต้องเลิกลูกจ้างแผนกอาหารทั้ง ๑๕ คนโจทก์ได้จ่ายค่าทดแทนทุกคนตามกฎหมายแรงงาน การเลิกจ้างของโจทก์ไม่เกี่ยวกับการที่ลูกจ้างเป็นกรรมการสหภาพแรงงานโจทก์มิได้กลั่นแกล้งลูกจ้าง มิใช่เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม และคำสั่งของจำเลยควรให้โจทก์เลือกปฏิบัติได้ โดยให้โจทก์เลือกจ่ายค่าเสียหายแทนการรับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน ขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งของจำเลย หากเห็นว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเลิกจ้างลูกจ้างได้ ขอให้ศาลแก้ไขคำสั่งของจำเลยให้โจทก์เลือกปฏิบัติในการเลือกจ่ายค่าเสียหายให้ในจำนวนที่สมควรและเป็นธรรม
จำเลยให้การว่า คำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ถูกต้องแล้วขอให้ยกฟ้อง
โจทก์สำนวนที่ ๒ และสำนวนที่ ๓ ฟ้องและแก้ไขฟ้องมีใจความทำนองเดียวกันว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทุกคนอ้างว่าประสบการขาดทุน โจทก์ร้องเรียนต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้วินิจฉัยว่าการเลิกจ้างของจำเลยเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม ให้จำเลยรับโจทก์ทุกคนกลับเข้าทำงานในตำแหน่งและอัตราค่าจ้างเดิม จำเลยทราบคำสั่งแล้วไม่ปฏิบัติ ขอให้พิพากษาให้จำเลยรับโจทก์ทุกคนกลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างเดิมเสมือนมิได้มีการเลิกจ้างกับจ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์แต่ละคนด้วย
จำเลยทั้งสองสำนวนให้การทำนองเดียวกันว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะมิใช่ผู้เสียหาย โจทก์ไม่ได้รับความเสียหาย จำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้โดยชอบ เพราะจำเลยเลิกประกอบกิจการในแผนกที่โจทก์ทำงานเนื่องจากจำเลยประสบภาวะขาดทุน
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ในสำนวนแรก ให้บริษัทอิทธิผลจำกัด จำเลยในสองสำนวนหลังรับโจทก์ในคดีสองสำนวนหลังกลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดิมเสมือนไม่มีการเลิกจ้างตามคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ คำขออื่นให้ยก
บริษัทอิทธิผล จำกัด โจทก์ จำเลยที่ ๑๔ – ๒๐ และจำเลยที่ ๒๓ – ๒๘ อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ศาลแรงงานกลางสั่งรับเฉพาะอุทธรณ์โจทก์ ข้อ ๒.๓ส่วนข้ออื่นเป็นปัญหาข้อเท็จจริงจึงไม่รับโจทก์และจำเลยต่างอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ แต่ศาลฎีกายกอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ จำเลยที่ ๑๔ – ๒๐ และจำเลยที่ ๒๓ – ๒๘
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เห็นว่าโจทก์เลิกจ้างจำเลยเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๒๓ จึงมีคำสั่งให้โจทก์จำเลยกลับเข้าทำงาน โจทก์ขอให้ศาลกำหนดค่าเสียหายให้จำเลยแทนการรับจำเลยกลับเข้าทำงาน เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์เลิกจ้างจำเลยเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม ศาลจะมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้จำเลยแทนการรับจำเลยกลับเข้าทำงานได้หรือไม่ พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๒๑, ๑๒๒ และมาตรา ๑๒๓ บัญญัติห้ามนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างหรือบุคคลผู้ใดกระทำการใด ๆ ตามที่ระบุไว้ในมาตราดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม เมื่อมีการฝ่าฝืนมาตรา ๑๒๑, ๑๒๒ หรือมาตรา ๑๒๓ ผู้เสียหายเนื่องจากการฝ่าฝืนอาจยื่นคำร้องกล่าวหาผู้ฝ่าฝืนต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่มีการฝ่าฝืนเมื่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้รับคำร้องกล่าวหา ให้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดและออกคำสั่งในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องกล่าวหาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๒๔ และมาตรา ๑๒๕ คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีอำนาจและหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔๑ ให้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้(๔) วินิจฉัยชี้ขาดคำร้องตามมาตรา ๑๒๔ และในกรณีที่คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ชี้ขาดว่า เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมให้มีอำนาจสั่งให้นายจ้างรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานหรือให้จ่ายค่าเสียหายหรือให้ผู้ฝ่าฝืนปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งได้ตามที่เห็นควร เห็นว่าการที่คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดว่า นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างหรือผู้ใดกระทำการใด ๆ เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา ๑๒๑ ถึงมาตรา ๑๒๓ และการใช้อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ตามมาตรา ๔๑ พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มิได้บัญญัติว่าถึงที่สุดผู้ถูกกล่าวหาอาจฟ้องต่อศาลให้เพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้รวมทั้งการใช้อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ มาตรา ๔๑ หากคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ใช้อำนาจหน้าที่ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมประการใด ศาลย่อมมีอำนาจที่จะแก้ไขให้ถูกต้องและเหมาะสมได้ เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์เลิกจ้างจำเลยเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามความเห็นของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีคำสั่งให้โจทก์รับจำเลยกลับเข้าทำงานศาลย่อมมีอำนาจกำหนดให้โจทก์จ่ายค่าเสียหายแทนการรับจำเลยกลับเข้าทำงานได้ อุทธรณ์ของบริษัทอิทธิผล จำกัด โจทก์ฟังขึ้น การกำหนดค่าเสียหายดังกล่าวศาลจะกำหนดให้หรือไม่กำหนดให้ หากกำหนดให้ควรเป็นเท่าใด ศาลแรงงานกลางยังมิได้วินิจฉัย
พิพากษาแก้เป็นให้ยกคำพิพากษาศาลแรงงานกลางบางส่วนเฉพาะเรื่องการกำหนดค่าเสียหาย ให้โจทก์จ่ายให้จำเลยแทนการรับจำเลยกลับเข้าทำงาน ให้ศาลแรงงานกลางพิพากษาใหม่ในประเด็นข้อนี้

Share