แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก โจทก์ยื่นคำร้องเลื่อนคดีโดยอ้างว่าตัวโจทก์ไปธุรกิจต่างจังหวัดกลับไม่ทัน แม้โจทก์มีผู้รับมอบอำนาจที่สามารถนำมาเบิกความได้แต่ไม่นำมา ก็ไม่พอถือเป็นเหตุว่าโจทก์ประวิงคดีเพราะโจทก์อาจประสงค์จะสืบตัวโจทก์เป็นพยานก่อนก็ทำได้ เมื่อจำเลยคัดค้าน ศาลชั้นต้นควรจะไต่สวนคำร้องโจทก์ก่อน การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีโดยมิได้ไต่สวนข้อเท็จจริงตามคำร้องก่อนจึงไม่ชอบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำเลยให้การปฏิเสธวันนัดพร้อมนัดแรกโจทก์มาศาล จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างว่าตัวจำเลยป่วย ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์วันที่19 พฤศจิกายน 2529 ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาอ้างว่าตัวโจทก์ไปทำธุรกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่สามารถกลับได้ทัน จำเลยคัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าข้ออ้างของโจทก์ไม่อาจรับฟังได้ เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาศาลและสำเนาบัญชีกระแสรายวันของจำเลยโจทก์ยังไม่ได้ขอเรียกมา จึงให้ถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ จำเลยไม่สืบพยาน ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า แม้ตัวโจทก์ติดธุระไม่มาศาล แต่ยังมีผู้รับมอบอำนาจโจทก์ที่สามารถนำมาเบิกความได้แต่โจทก์ไม่นำมา จึงเท่ากับว่าโจทก์ประวิงคดีนั้น เห็นว่าโจทก์เพิ่งขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก แม้โจทก์จะมีผู้รับมอบอำนาจ แต่โจทก์ประสงค์จะสืบตัวโจทก์เป็นพยานก่อนก็ย่อมทำได้ จะถือเป็นเหตุว่าโจทก์ประวิงคดียังไม่ถนัด เมื่อจำเลยคัดค้าน ศาลชั้นต้นน่าจะไต่สวนคำร้องโจทก์ก่อน การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีโดยมิได้ไต่สวนข้อเท็จจริงตามคำร้องก่อนจึงไม่ชอบ”
พิพากษายืน