แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 297 จำคุก4 ปี และริบของกลาง ศาลอุทธรณ์แก้ เฉพาะบทกฎหมายที่ลงโทษจำเลยเป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. 288,80 ส่วนโทษจำคุกยังคงเท่ากับที่ศาลชั้นต้นกำหนดดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย เมื่อศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงสิบตำรวจโทธวัฒน์ ผู้เสียหาย จำนวน 2 นัด ที่บริเวณหน้าท้องโดยเจตนาฆ่า แต่การกระทำไม่บรรลุผลเนื่องจากผู้เสียหายได้รับการรักษาได้ทันท่วงที ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายเพียงได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80, 33 ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 ลงโทษจำคุก 6 ปี คำให้การของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษจำคุก 4 ปี ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปรากฏว่าศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 จำคุก 4 ปี และริบของกลางศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะบทกฎหมายที่ลงโทษจำเลยเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 ส่วนโทษจำคุกยังคงเท่ากับที่ศาลชั้นต้นกำหนด ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย เมื่อศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัยหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ที่จำเลยฎีกาว่าพยานหลักฐานโจทก์น่าระแวงสงสัยว่าจะไม่เบิกความไปตามความจริงและรับฟังไม่ได้นั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาจำเลย.